ส่วนแอมเองก็สังเกตุเห็นพฤติกรรมของอาคิรา แต่ก็ยังทำนิ่ง อยากรู้ว่าเมื่อไร อาคิราถึงจะยอมบอกเธอออกมาด้วยตัวเองเสียทีว่ารู้สึกยังไงกับเธอ แอมจึงยังไม่ตัดสินใจที่จะทำอะไรเสียทีเอาแต่ นั่งอมยิ้ม มองผู้หญิงตัวเล็กที่นั่งข้างๆกระสับกระส่ายไปมา
“น้องอายคะ” แอมลองเอ่ยเรียกคนที่นั่งมองออกไปข้างนอกด้วยสายตาเหม่อลอย
“คะ” อายสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันมาตอบพร้อมรอยยิ้มแหยๆ
“น้องอายมีอะไร หรืออยากรู้อะไรรึเปล่าคะ เพราะพี่แอมรู้สึกว่าน้องอาย อารมณ์ไม่ค่อยดีเลยวันนี้ น้องอายมีอะไรจะบอกพี่แอมหรือเปล่าคะ” แอมแกล้งยิงคำถามอยากรู้นักว่าอาคิราจะว่าอย่างไร
“อะเอ่อ..เออ..คือว่า..คือว่าอาย.เอ่อ..ปะ เปล่าคะ อายไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย” เมื่อเห็นรอยยิ้มหวานๆของหมอแอมที่ส่งมาให้เธอ เธอกลับดันนึกถึงใบหน้าของฟ้าขึ้นมาทันที ก็รอยยิ้มแบบนี้แหละที่คุณหมอแอมยิ้มให้ฟ้า เมื่อคิดแบบนั้น อารมณ์ไม่พอใจก็ประทุขึ้นมาอีกรอบเสียดื้อๆแล้วพาลส่งค้อนขวับให้แอมแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
“เฮ้อ....” แอมถอนหายใจและส่ายหน้า เด็กอารายกันขี้งอนจริงๆแอมนึก แล้วไม่พูดอีก ปล่อยให้อาคิรานั่งหน้างุ้มกระฟัดกระเฟียดไปคนเดียว “วันนี้รถติดจริงๆจะสองทุ่มอยู่แล้วยังไม่ถึงบ้านเลย” แอมเปรยหาเรื่องชวนสาวขี้งอนคุย แล้วแอบปรายตามองอาคิราที่ยังทำไม่รู้ไม่ชี้เหมือนเดิม
แอมเอื้อมมือไปเปิดวิทยุฟังแทน เผื่อว่าเสียงเพลงจะทำให้แม่คนขี้งอนของเธอจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
“เงียบจัง ข้าวกับน้องเมย์ก็หลับไปแล้ว พี่แอมขอเปิดเพลงฟังหน่อยนะคะ” แอมเปรยเบาๆ
ทำนองเพลงเบาๆค่อยๆบรรเลงออกมาจากวิทยุ แอมเคาะนิ้ว ตามจังหวะเพลงที่พวงมาลัยแล้วฮัมเพลงตามอย่างอารมณ์ ดี “อ่ะ..เพลงนี้เพลงโปรดพี่แอมเลยค่ะ..น้องอายเคยฟังมั้ย” แอมยิ้มเมื่อได้ยิน อินโทรของทำนองเพลงใหม่ที่ขึ้นมา พร้อมเอี้ยวตัวปรับวอลุมของวิทยุให้ดังขึ้น แอมฮัมเพลงร้องตามอย่างอารมณ์ดี โดยเฉพาะท่อนที่ร้องว่า
"When I see your face
There's not a thing that I would change
Cause you're amazing
Just the way you are
And when you smile,
The whole world stops and stares for awhile
Cause girl you're amazing
Just the way you are"
(just the way you are by bruno mars)
พร้อมกับหันมามองหน้าของอาคิราที่กำลังแดงเป็นลูกตำลึง มีเหรอคนที่รักการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจจะไม่รู้จักเพลงนี้ยิ่งความหมายของเพลงๆนี้ ท่วงทำนองที่แม้จะเป็นเพียงการร้องคลอเบาๆ แต่เสียงเบาๆที่ออกริมฝีปากของคุณหมอคนสวยยิ่งทำให้เธอรู้สึกเขินมากขึ้น อาคิรารีบก้มหน้าหลบสายตาของแอมที่กำลังจ้องมองมาที่เธอ
“เคยได้ยินสิคะ เพลงนี้ดังจะตายใครๆก็รู้จัก” อาคิรารีบพูดกลบเกลื่อนความอายของตัวเอง แอมอมยิ้มแต่ก็ยังร้องคลอไปกับเพลงๆนั้นอย่างอารมณ์ดี โชคชะตาเข้าข้างเธอขนาดนี้เชียวเหรอกำลังนึกหาวิธีง้อคนขี้งอนอยู่แท้ๆเชียว แต่อยู่ดีๆดูเหมือนทุกอย่างจะดูเป็นใจอย่างนั้นล่ะ
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า ความขุ่นเคืองที่เคยมีภายในใจของอาคิรา เมื่อได้ยินหมอแอมร้องเพลงนั้นแม้จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจให้เธอก็ตามทีเถอะ แต่เธอก็รู้สึกดีขึ้น อาคิราสูดหายใจลึกและยิ้มออกมาได้ในที่สุด
“พี่แอมคะ” อายหันมองใบหน้าของแอม และเอ่ยเรียกเหมือนกับตัดสินใจอะไรบางอย่างได้
“คะ” แอมตอบเสียงหวาน
“คะ..คือว่าว่า อายมีเรื่องอยากจะถามพี่แอมน่ะคะ” อายเอ่ยเบาๆค่อนข้างลังเล
“หือ เรื่องอะไรคะ” แอมตอบขณะค่อยๆหักพวกมาลัยเข้าซอยในหมู่บ้าน
“ก็….เรื่อง....หลายเรื่องค่ะอายเองก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง”
“น้องอายอายกรู้อะไรเหรอค่ะ” แอมพูดเบาๆขณะค่อยๆเลี้ยวรถเข้าภายในที่จอดรด
“เอ่อ…ก็..ก็...” อาคิราพูดตะกุกตะกัก เรื่องที่เธออยากถามอยากรู้เกี่ยวกับหมอแอมนั้นมีหลายเรื่อง ไหนจะเรื่องพ่อของน้องเมย์ที่แอมทำไมไม่ยอมบอกเธอเสียที ไหนจะเรื่องรุ่นน้องของหมอแอมที่ดูจะสนิทสนมกันขนาดนั้น ไหนจะความรู้สึกของหมอแอมอีกว่าคิดว่ารู้สึกแบบไหนกับเธอกันแน่ เครื่องหมายคำถามตอนนี้คงกำลังผุดขึ้นมาบนใบหน้าของเธอเป็นแน่
“เด็กๆ ถึงบ้านแล้วค่า ตื่นเร็ว” แอมหันหลังไปมองเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนที่ค่อยๆงัวเงียตื่น ขยี้ตาปิดปากหาวลงจากรถ แต่สองมือก็ยังคงตะครองกอดของเล่นใหม่ไว้แน่น แอมอมยิ้มแล้วเตรียมลงจากรถ อายทำท่าเหมือนจะถามอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่ยอมพูดซักทีเอาแต่ตะกุกตะกัก แอมเห็นแบบนั้นก็เลยต้องถามออกไปเสียเอง
“ว่าไงค่ะ มีอะไรจะถามพี่แอมหรือเปล่า” แอมถามอีกครั้ง
“คือ....เรื่องพ่อของน้องเมย์..ทำไมพี่แอมไม่ยอมบอกอายซักทีละค่ะว่าว่าจริงๆแล้ว ไม่ใช่...ไม่ใช่...” อายอำอึ้งไม่รู้จะพูดต่อไปอย่างไร “พ่อน้องเมย์ทำไมเหรอคะ”แอมอมยิ้ม “ทำไมพี่แอมไม่บอกอายซักทีล่ะคะ ว่าจริงๆแล้วเป็นพี่ชายของพี่แอมไม่ใช่แฟนพี่แอม” อาคิราหน้าแดงรีบพูด
“ก็….น้องอายไม่เคยถามนี่คะ….แล้วพี่แอมก็ไม่เคยบอกซักหน่อยว่าพี่แอมแต่งงานแล้ว น้องอายทึกทักเอาเองคนเดียวนี่นา” แอมยิ้มแล้วปิดประตูรถหลังจากที่อายลงมายืนอยู่ข้างๆเธอแล้ว “ก็….นั่นล่ะค่ะ ปล่อยให้อายเข้าใจผิด คิดเองเออเองคนเดียวอยู่ได้” อาคิราหน้าแดงจัดพำพึมเบาๆ เธอก้มหน้างุดๆไม่อยากให้แอมเห็นสีหน้าของตัวเอง
“แล้ว...ทำไมน้องอายถึงอยากรู้เรื่องนี้นักล่ะคะ…..แล้วทำไมต้องเข้าใจผิดด้วย” แอมยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วเดินเข้าไปหาร่างเล็กๆนั้น “อาย เอ่อ อาย แค่...แค่...” อาคิราแก้ตัวไม่ออกไม่รู้จะพูดอะไรดี
“ก็แค่อะไรคะคนดี” แอมว่าแล้วเข้าไปโอบกอดร่างเล็กๆนั้นไว้
“พี่แอม” อาคิราสะดุ้งเมื่อถูกแอมโอบกอด กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆโชยมาเข้าจมูกเธอไม่ทันตั้งตัว ความรู้สึกอุ่นนุ่มที่สัมผัสได้ทำให้อาคิรายืนตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกได้แต่ก้มหน้ามองพื้นท่าเดียว
“คะ??ว่าไงเอ่ย จะยอมบอกพี่แอมได้รึยังว่าคิดอะไรอยู่” นอกจากจะไม่ปล่อยให้คนตัวเล็กหนีไปไหนแล้วเธอยิ่งกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นอีกจนอายรับรู้ได้ถึงลมหายใจของคุณหมอคนสวยที่เป่ารดอยู่ที่ต้นคอ
“ปล่อย ปล่อยอายก่อน แล้วอายจะพูดได้ไงล่ะคะ” อาคิราพูดตะกุกตะกักด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“ไม่ปล่อยค่ะ บอกพี่แอมมาก่อนว่าจะคิดอะไรอยู่กันแน่” แอมดึงดันยังคงสนุกกับการได้แกล้งคนตัวเล็กอยู่
“ไม่มีอะไรนี่ค่ะ อายไม่ได้คิดอะไรซักหน่อย” อาคิราบอกปัดเก้อๆเขินหนักกว่าเก่า
“เอ๋…..แล้วเมื่อคืนนั้น….ใครกันน้าที่บอกว่า…. “(ใครจำไม่ได้ว่ายัยอายเคยพูดอะไรไว้ รื้อๆขึ้นไปอ่านตอนที่ผ่านๆมาแล้วเอานะ) แอมทำเสียงเจ้าเล่ห์ เรื่องคืนก่อนนั้น มีเหรอเธอจะไม่รู้ เพียงแค่ได้อยู่ใกล้ๆสาวหน้าหวานคนนี้ ใครกันจะหลับลง ทุกถ้อยคำทุกคำพูด เธอได้ยินอย่างชัดเจนและเธอเองก็รู้สึกดีใจที่รู้ว่าผู้หญิงตัวเล็กคนนี้คิดไม่ต่างจากที่เธอคิด
“พี่แอม! นี่พี่แอมไม่ได้หลับเหรอคะ” อาคิราโพลงตาโตเรื่องที่เธอพูดคืนก่อนนั้น แอมรับรู้ทั้งหมดนั่นยิ่งทำให้ สาวหน้าหวานยิ่งทำอะไรไม่ถูกเข้าไปใหญ่
“ก็เกือบจะหลับแล้วล่ะค่ะ แต่พอได้ยินเสียงหวานๆของใครบางคนก็เลยหลับไม่ลงไงคะ” แอมอมยิ้มแล้วจึงแกล้งเอาคางของตัวเองเกยไว้ที่บ่าเล็กๆของอาคิรา
“ขี้โกง” อาคิราว่างอนๆ
“พี่แอมไม่ได้โกงซักหน่อย อายเองต่างหากที่ชอบคิดอะไรเองอยู่เรื่อย” แอมหัวเราะ
“พี่แอม ปล่อยอายก่อนสิคะเดียวใครมาเห็นเข้า”อายบอกเบาๆ
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ว่าแต่ขอฟังอีกครั้งได้มั้ยคะที่พูดคืนนั้นน่ะ….”
“อายไม่ได้พูดอะไรซักหน่อย พี่แอมฝันมากกว่า” อาคิราแกล้งเฉไฉ ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ว่าแอมกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่จนดูน่า…..
“ยังงี้ก็เหมือนพี่แอมโมเมเองเลยสิคะ แย่จังโดนหักอกซะแล้ว” แอมแกล้งตีหน้าเศร้าแล้วคลายอ้อมกอดที่กอดสาวตัวเล็กออก
“มะ ไม่ใช่นะคะ พี่แอมอะอย่าทำแบบนี้สิค๊าๆ” อาคิราโวยวายแล้วรั้งข้อมือของคุณหมอคนสวยที่ทำท่าจะเดินหนีไปไว้
“ก็น้องอายบอกเองนี่คะว่าไม่ได้พูดอะไรซักหน่อย ช่างเถอะค่ะถือว่าพี่แอมฝันเองคนเดียวก็ได้” เมื่อเจอคุณหมอคนสวยแผลงฤทธิ์เข้าให้มั้ง อาคิราก็เกิดอาการลนลานทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาจนได้ ทั้งๆที่คิดว่าจะเล่นตัวกะเค้าบ้าง(ไม่เคยสำเร็จ)
“ค่าๆ อายชอบพี่แอม อายบอกว่าอายชอบพี่แอม พอใจหรือยังคะ”อาคิราตะโกนบอกเสียงดังลนลานกลัวว่าแอมจะโกธรเธอที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เรื่องคืนก่อน
“เห็นมั้ยคะ ไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย แค่บอกความรู้สึกออกมาเอง” แอมยิ้มกว้างพอใจแล้วรั้งตัวบางๆของคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้แน่น
“ก็อายไม่รู้จะบอกยังไงนี่คะ ก็พี่แอมเล่นไม่บอกอายซะทีนี่ว่าน้องเมย์น่ะไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ แล้วไหนจะเรื่องพี่ฟ้าอีก ใครจะไปกล้าล่ะคะ…..อีกอย่างใครจะรู้ล่ะคะว่าพี่แอมชอบ….เอ่อ....ผู้หญิง ขืนอายบอกไปคนที่หน้าแตกหมอไม่รับเย็บก็คงเป็นอายอยู่ดี” อาคิราพูดเสียงอู้อี้ขณะที่ตัวเองอยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆของคุณหมอคนสวย
“พี่แอมก็แค่อยากจะลองใจดูเท่านั้นเอง ว่าชอบพี่แอมจริงๆหรือเปล่า” แอมหัวเราะคิกคัก แล้วจึงจูงมือสาวตัวเล็กไปนั่งที่ชิงช้าโยก ข้างๆสนามหญ้าหลังบ้าน
“โห้ย...ก็เลยไม่ยอมบอกอายซักทีใช่มั้ยคะ” อายเบ้หน้าว่างอนๆ
“ตอนแรกก็กะจะบอกอยู่หรอกค่ะ แต่น้องอายอยู่ดีๆเดียวก็งอนๆ พี่แอมเลยขอแกล้งอีกซักนิดไงคะ” แอมโอบเอวคนตัวเล็กไว้หลวมๆแล้วอมยิ้มบอกเบาๆ
“อ้อ....นี่รู้อยู่แล้วใช่มั้ยคะ ว่าอายน่ะชอบพี่แต่ก็ยังจะแกล้งอีก” อาคิราว่าแล้วสะบัดหน้าหนี
“โอ๋ๆ....ก็น้องอายอยากทำตัวน่ารัก น่าแกล้งทำไมล่ะคะ หืม...” แอมหัวเราะขำ แล้วพยายามจะมองหน้าของคนขี้งอนที่ไม่ยอมมองตอบเธอ
“อายไม่พูดด้วยแล้ว ไปเก็บของเตรียมตัวกลับบ้านดีกว่า” อาคิรายังไม่เลิกงอน เธอทำท่าจะลุกขึ้น ให้คนที่นั่งข้างๆต้องส่ายหน้าระอาเพราะความเอาแต่ใจของตัวเอง แอมรั้งแขนเล็กของสาวหน้าหวานไว้ให้นั่งลงที่ตักเธอ แล้วกระชับวงแขนไว้แน่น ปล่อยให้อาคิราที่ยังงอนไม่ยอมเลิกดิ้นขลุกๆอยู่ในอ้อมแขนของเธอ
“ปล่อยอายเลยนะ พี่แอมเลิกแกล้งอายได้แล้ว อายไม่สนุกด้วยหรอกนะคะ” อาคิราว่าน้ำเสียงกระเง้ากระงอดเบาๆ
“พี่แอมไม่ได้แกล้งซักหน่อย ก็อยากกอดจริงๆนี่คะ” แอมอมยิ้มแล้วตัดสินใจหอมแก้มของคนขี้งอนเบาๆ
“ ใจร้าย” อาคิราพึมพำเบาๆ
“ค่าๆ พี่แอมใจร้าย” แอมอมยิ้ม เออออตามที่คนตัวเล็กต้องการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น