Trap of the next door 12


เช้าวันใหม่มาเยือนพร้อมเรื่องวุ่นๆ บรีสหายใจเนื่อยๆ เรื่องของนนท์ยังทำให้เธอไม่สบายใจอยู่บ้างเพราะนนท์ถึงขั้นรู้ว่าเธอทำงานอยู่ที่ไหนแล้วด้วยนิสัยของนนท์ เธอเองก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันคงไม่จบลงง่ายๆแน่ เรื่องเก่ายังไม่ทันจบก็มีเรื่องใหม่มาให้เธอปวดหัวอีกแล้ว ทันที่ที่เธอมาถึงที่ทำงาน สายตาของคนอื่นๆก็เหมือนกำลังมองมาที่เธอ บรีสคิดไปว่าคงเป็นเรื่องที่เธอต้องเป็นนางแบบโฆษณาบราเซียจำเป็นแน่ๆ “บรีสๆ”เรียกเสียงของอิงนภาดังลั่น เธอรีบวิ่งมาหาเพื่อนแล้วดึงแขนเจ้าตัวให้หลบเข้าไปในห้องทำงาน

 “อะไรแก...ตกใจอะไร”บรีสยิ้มขำกับท่าทางตื่นๆของเพื่อน “ยังมีหน้ามาลันลาร่าเริงอีกนะแก"อิงนภาแยกเขี้ยว
“เอ้าก็แล้วจะให้ทำยังไง ก็บอสสั่งมานิใช่ว่าชั้นอยากจะเป็นซะที่ไหน ไอ้นางบงนางแบบอะไรเนี่ยน่ะ” บรีสพล่ามยาวยังคงคิดว่าเป็นเรื่องที่เธอเป็นนางแบบจำเป็นอยู่
“ดะ...เดี๋ยวๆ...ไม่ใช่เรื่องนั้น” อิงนภาเบ้หน้าแล้วยกมือห้ามให้บรีสหยุดพูด เจ้าตัวหันมามองแล้วทำหน้างงๆ “เอ้า ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้แล้วมันเรื่องอะไร”
“โอ้ย อกอิแป้นจะแตก นี่แกไม่รู้อะไรเลยหรือไง ก็เรื่องที่อิตานนท์แฟนเก่าแกมาอาละวาดถึงที่นี่น่ะสิ เค้าเมาท์กันไป สามสี่ออฟฟิตแล้ววว แล้วแกรู้มั้ยว่าเขาเมาท์กันว่าอะไรบ้าง” อิงนภาว่าแล้วนั่งลงตรงข้ามบรีส “มะ..ไม่รู้อะ” บริสหน้าซีด เธอเกลียดการเป็นข่าวที่สุด ยิ่งต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านแล้วด้วยนั้น เธอถึงกับยิ้มไม่ออก “เห้อออ เขาเมาท์กันให้แซดว่าแฟนเก่าแกกะน้องเฟียสอะต่อยกัน เพราะทะเลาะกันเรื่องแก”อิงนภาอธิบาย
“เฮ้ย...อะไรอะ ไม่ใช่นะ ตายๆ เรื่องมันออกไปเป็นอย่างนั้นได้ยังไง”บรีสเริ่มนั่งไม่ติด นี่เองสินะ ที่คนอื่นๆถึงมองเธอแปลกๆตอนที่เธอเดินเข้าออฟฟิศมา  “ใช่ตายแน่...แกนั่นแหละที่จะตาย.....แกก็รู้ท่านประธานใหญ่ไม่ชอบให้มีข่าวพรรณนี้ในบริษัท”อิงนภาถอนหายใจกลุ้มแทนเพื่อน “ชั้นแค่บังเอิญเจอน้องเฟียสหน้าลิฟท์ แค่ลงไปพร้อมกันแล้ว....”
“แล้วอิตานนท์ก็ดักอยู่หน้าลิฟท์” อิงนภาต่อคำให้เพื่อน
“อือ อย่างที่แกเข้าใจนั่นแหละ”
“เอ่อ..ชั้นน่ะรู้ว่าแกเป็นคนยังไงแล้วอิตานนท์มันเป็นคนยังไง แต่คนอื่นเค้าไม่รู้จักแกเหมือนที่ชั้นรู้จัก”
“แล้วจะให้ชั้นทำยังไง นนท์รู้ได้ยังไงว่าชั้นทำงานที่นี่”บรีสคิ้วขมวดผูกกันเป็นปม เธอรู้เว่าเดียวต้องมีเรื่องยุ่งๆตามมาอีกแน่นอน เพราะนนท์ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่ไม่ยอมอะไรง่ายๆและตามตื้อสุดๆ “อิตานนท์มันคิดอะไรของมันอยู่ รู้ทั้งรู้ว่าเรื่องมันจบไปแล้ว”
“ชั้นจะไปรู้เร๊อะ”
“สงสัยจะนึกพิศวาสแกขึ้นมามั้ง ก็เล่นโดนแกทิ้งแบบนั้นนิ”อิงนภาว่าแล้วหัวเราะขำ
“มะ..ไม่ตลกนะ”บรีสเบ้หน้าราวกับจะร้องไห้ ชีวิตเธอดูจะไม่มีวันจะสงบเลยมั้ง ไหนจะเจ้านายจอมเอาแต่ใจ ไหนจะเจอแฟนเก่าตามตื้ออีก แค่นึกเธอก็อยากจะหาบวับไปจากตรงนี้เสียจริงๆ

“ชั้นว่าแกไปเตรียมตัวเถอะ นี่ก็สายแล้ว เดียวอิตาเฮียติงก็มาแล้ว ทำงานๆ”อิงนภาทั้งขำทั้งสงสารเพื่อนเมื่อเห็นใบหน้าของบรีส แต่เธอก้ไม่รู้จะช่วยยังไง “เอ่อ...เดียวชั้นจะไปกำชับยามให้แล้วกัน ว่าถ้าอิตานนท์มันมาอีก ห้ามเข้าใกล้ออฟฟิศแล้วกัน เคมั้ย”อิงนภาชะโงกหน้าเข้ามาบอกเพื่อน เธอคงจะช่วยบรีสได้เท่าที่สามารถจะช่วยได้ “อืม ขอบใจ”บรีสตอบเบาๆแล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำงาน

“เอ้าๆเก็บของอย่าให้ขาดนะพวกเอ็ง ไวไว”ผู้กับกับจอมเฮี้ยบตะโกนสั่งลูกน้อง ให้ตรวจสอบความเรียบร้อยของอุปกรณ์ที่จะต้องใช้ในการถ่ายทำนอกสถานที่
“เอ้านี่ของแก”อิงนภายื่นถุงกระดาษที่มีโลโก้ของบราเซียยี่ห้อดังให้บรีสที่นั่งหน้าเจื่อนอยู่บนรถตู้เตรียมออกเดินทางสู่ รีสอร์ทริมทะเลที่บริษัทได้เช่าเหมาไว้เพื่อถ่ายทำโดยเฉพาะ “ขอบใจ” บรีสเอ่ย ลอยๆ เธอหลับตาลงเหนื่อยใจกับเรื่องวุ่นๆที่เกิดขึ้น “เฮ้อๆ”บรีสถอนหายใจอีกครั้ง “เป็นอะไรคุณ ถอนหายใจเป็นคนแก่ไปได้” ยังไม่ทันที่จะได้พักสมอง พักสายตา หรือพักปาก อีกหนึ่งความวุ่นวายก็ปรากฎตัวขึ้นพร้อมน้ำเสียงเรียบๆที่เธอฟังยังไงก็รู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียเลย

“อย่าเพิ่งหาเรื่องชั้นเลยนะ เหนื่อย” บรีสเปรยเบาๆเธอเหนื่อยใจเกินกว่าจะต่อล้อต่อเถียงกับณภัทรในตอนนี้ “กลุ้มใจเรื่องแฟนหรือไง” โดนใจดำของคนได้ยินอย่างแรง บรีสรีบดีดตัวจากเบาะที่นั่งมองหน้าเจ้านายคนสวย เธอกัดริมฝีปากมองค้อนแล้วเดินหนีออกมา “อ้าวๆ..จะไปไหนคุณ รถจะออกแล้วนะ” ณภัทรยืนอมยิ้ม มองดูบรีสที่เดินปึงปังหนีเธอไปแต่ก็หยุดชะงักแล้วเดินกลับมานั่งที่เดิม ณภัทรยิ้มมุมปาก เอี้ยวตัวให้คนอารมณ์หงุดหงิดที่มองค้อนเธออีกรอบ ฟึดฟัดขึ้นไปนั่งบนรถ “ขยับหน่อย”ณภัทรว่าแล้วขึ้นไปนั่งเบียดใกล้บรีส คนโดนเบียดจึงต้องจำยอมขยับตัวเข้าไปด้านในมากขึ้น

“พร้อมแล้วครับ คุณภัทร” เฮียติงผู้กำกับจอมเฮี้ยบเดินเข้ามาบอกณภัทร “งั้นก็สั่งให้ออกเดินทางได้เลยค่ะ” ณภัทรยิ้มบอกเบาๆ “เอ๋...เฮียติงแล้วคนอื่นล่ะ” บรีสมุ่นหน้าสงสัยเพราะรถตู้คันที่เธอนั่งนี้มีเพียง คนขับ ตัวเธอและณภัทรเท่านั้นไม่มีวี่แววของนางแบบคนอื่นๆหรือพนักงานคนอื่น “อยู่คันโน้น”เฮียติงอธิบายแล้วเดินไป
 “เห๋...เอ้า เดียวสิ รอหนูด้วย” บรีสท้วง เรื่องอะไรจะให้เธออยู่ตามลำพังกับณภัทรแค่สองคนกันล่ะ “หลบหน่อยสิคุณ ชั้นขึ้นผิดคัน” บรีสเลิกลั่ก พยายามจะแทรกตัวออกนอกรถให้ได้ “ไม่ผิดหรอก คุณน่ะอยู่คันนี้ คันอื่นเต็มหมดแล้ว ออกรถ” ณภัทรว่าแล้วดึงแขนคนที่พยายามจะเบี่ยงตัวหลบเธอให้นั่งลงที่เดิม “ดะ...เดี๋ยวววว”ช้าไปเสียแล้วสำหรับเสียงประท้วงของบรีส เธอนั่งลงที่เดิมแล้วมองค้อนคนที่นั่งข้างๆอย่างไม่ต้องสงสัย

“ปวดฟันหรือไง” ณภัทรแกล้งถามเมื่อเห็นบรีสเอาแต่ถอนหายใจ หน้าบึ้งหน้าบูดและขยันส่งค้อนมาให้เธอเป็นระยะๆ “เปล่า” เจ้าตัวตอบห้วนๆ แล้วตะแคงตัวมองออกไปนอกหน้าต่าง นี่เธอต้องทนนั่งอยู่ข้างๆณภัทรไปอีกหลายชั่วโมงเลยเชียวเหรอ แค่คิดเธอก็เหนื่อยแล้ว  ส่วนณภัทรนั้นไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ว่าเธอพอใจและมีความสุขมากแค่ไหนที่ได้แกล้งคนที่นั่งข้างๆ เจ้าตัวเอาแต่อมยิ้มมองคนข้างๆที่กระสับกระส่ายไปมาเพราะไม่พอใจเธอ

 ณภัทรอ่านหนังสือที่พกมาด้วยฆ่าเวลาไปเรื่อยๆบวกกับแอบมองคนนั่งข้างๆไปด้วย บรีสหันมามองค้อนเธอบ้างเป็นบางครั้ง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอเสียสมาธิจากหนังสือที่กำลังอ่านอยู่
“คุณ...นี่คุณ” ณภัทรละสายตาหันมองคนข้างๆ
“หือ”
“ที่ว่างตั้งเยอะแยะ คุณช่วยขยับไปหน่อยได้มั้ย ชั้นอึดอึด”บรีสบอกด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ก็เพราะ ที่นั่งทั้งหมดนั้นว่าง มีที่ไม่ว่างก็ที่นั่งข้างๆเธอนี่แหละ “ไม่ล่ะ ตรงนี้แอร์เย็นดี ชั้นขี้ร้อนน่ะ” ณภัทรตอบหน้าตายแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือในมือต่อไป “งั้นก็หลีกหน่อย ชั้นย้ายเอง”บรีสทำท่าจะลุกขึ้น แต่ณภัทร กลับเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำที่อยู่ด้านหน้ากั้นไม่ให้บรีสออกไปได้

“คุณ...”บรีสโวยวายและ... “โอ๊ย...” แน่นอนว่าเรื่องแย่ๆยังไม่หมดสิ้นไปจากชีวิตของเธอ “อย่าลุกสิครับแถวนี้เนินมันเยอะ” โชเฟอร์ส่งเสียงบอก เพราะความรีบร้อนของเจ้าตัวกับทางที่ไม่ค่อยจะเรียบนักทำให้ศีรษะของเธอกระแทกเข้ากับหลังคารถขณะที่รถกำลังขึ้นลงเนิน ณภัทนอมยิ้ม แอบขำแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือเช่นเดิมปล่อยให้คนอารมณ์บูดฟาดงวงฟาดงานั่งลงที่เดิมพร้อมลูบศีรษะตัวเองป้อยๆ

“ลุงคะ อีกนานมั้ยกว่าจะถึง” บรีสดีดตัวลุกจากที่นั่งอีกครั้งชะโงกหน้าถามคนขับรถ “ยังไม่ครึ่งทางเลยครับคุณ โน้นแหละบ่ายสาม บ่ายสี่ “ลุงโชเฟอร์ตอบกลับมา ทันทีที่เจ้าตัวรู้ว่ายังเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมายเจ้าตัวก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกตลบ หลังจากเพิ่งจะนั่งนิ่งๆได้ไม่ถึง 10นาที “คุณนอนพักก่อนก็ได้ เดียวถ้าถึงเมื่อไร รับรองฉันจะปลุกคุณคนแรกเลย” ณภัทรว่าแต่น้ำเสียงนั้นฟังประชดอยู่ในที บรีสจึงส่งค้อนที่มีมากมายเหลือเฟ้อให้คนข้างๆอีกหน

 ณภัทรใช้เวลากับหนังสือที่อ่านไปเรื่อยๆและเมื่อเธอละสายตามามองคนข้างๆก็พบว่าเจ้าตัวนั้นหลับไปแล้ว เธอยิ้มแล้วค่อยๆประครองให้คนที่นั่งติดหน้าต่างจนตัวลีบเพราะไม่อยากจะอยู่ใกล้เธอได้นอนถนัดขึ้น  “หมดแรงเหวี่ยงค้อนแล้วล่ะสิ” ณภัทรแอบนึก

ทางที่ค่อนข้างขรุขระทำให้คนขับรถต้องเบี่ยงทางอยู่เรื่อยๆ รถที่โคลงไปโคลงมาทำให้คนที่หลับไปแล้วนั้นโอนไปเอียงมา จนในที่สุดศีรษะของบรีสก็ได้ที่ถนัด เพราะนั่นก็คือไหล่ของณภัทรนั่นเอง เจ้าตัวนอกจะไม่ตื่นแล้วยังพยายามจะดันตัวเบียดคนข้างๆ ณภัทรยิ้มขยับตัวเข้าใกล้คนที่หลับขึ้นอีกเพื่อให้บรีสนอนได้ถนัดขึ้น

“คุณๆ”เสียงเรียกของณภัทรทำให้คนที่กำลังหลับสบายงัวเงียตื่น “ถึงแล้วเหรอ”บรีสพึมพำเบาๆ
“ยัง”ณภัทรตอบกลับ“แล้วเรียกทำไมเล่า ถึงค่อยบอก” แน่ะ...นอกจากจะไม่ยอมตื่นแล้วเจ้าตัวยังพยายามจะดันตัวให้นอนได้ถนัดขึ้นอีกโดยไม่ได้รู้เลยว่าหมอนที่เธอกำลังหนุนสบายนั้นคืออะไร “หลับสบายมั้ย” ณภัทรแกล้งถามอีก “งืม..อย่าเพิ่งกวนได้มั้ย จะนอนนน”บรีสงัวเงียพยายามจะดันตัวเข้าหาหมอน(?) แต่ดูเหมือนว่ามันจะขยับเองได้เจ้าตัวจึงพยายามจะใช้มือจับให้หมอน(?)นุ่มๆนั้นเข้าที่เข้าทาง แต่ความยุ่นนุ่มแบบนี้มันคืออะไร เจ้าตัวจึงบรือตาขึ้นมองด้วยความสงสัย และหมอนใบนุ่มที่เธอคิดว่ามันคือหมอน ความจริงแล้ว...เธอกำลังซุกหน้าอยู่ที่ซอกคอของคนข้างๆและมือของเจ้าตัวก็คว้าหมับเข้าที่หน้าอกคู่สวยของเจ้านาย “เหวย...”บรีสสะดุ้งแล้วดีดตัวออกทันที “นี่คุณ”บรีสเลิ่กลั่กมองหน้าณภัทร งงๆ

“คุณทำอะไรชั้น”
“หือ...ชั้นน่าจะเป็นคนถามมากกว่านะ คำถามนั้นน่ะ” ณภัทรยิ้มแล้วลงไปจากรถ

ตอนนี้คณะถ่ายทำเดินทางมาถึงปั้มน้ำมันขนาดใหญ่เพื่อเติมเสบียงทั้งของรถและของคนที่มากับรถ ณภัทรบิดขี้เกียจแล้วขยับหมุนต้นคอและหัวไหล่ของตัวเอง “จะลงมามั้ย”เธอหันมาถามคนที่ยัง งงๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่บรีสก็รีบเดินตามลงมา


“เดียวเราจะเริ่มถ่ายกันตอนเย็นๆนะครับ แสงกำลังสวยเลย” เฮียติงเดินมาบอกณภัทรที่กำลังพักนั่งดื่มน้ำอยู่
“อืมโอเค แล้วเรื่องอื่นล่ะเรียบร้อยมั้ย” ณภัทรถาม “เรียบร้อยครับ เหลือคุณกิ่งนางแบบอีกคนที่เห็นว่าจะบินมา คงจะถึงก่อนเราซักพัก”
“อืม”ณภัทรพยักหน้ารับทราบ แล้วทอดสายตามองออกไปไกล

“อ่ะ” ณภัทรหันไปมองก็เห็นว่าเป็นสาวข้างห้องนั่นเอง บรีสยื่นหลอดยาทาแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อให้ณภัทร เพราะเห็นว่าณภัทรดูจะเมื่อยต้นคอและไหล่อยู่ไม่น้อย “อะไร”ณภัทรเลิกคิ้วถาม
“เมื่อยไม่ใช่เหรอ”บรีสเบือนหน้าแล้วรีบเดินจากไปพร้อมความอาย ณภัทรหยิบหลอดยาขึ้นมาดูแล้วเก็บลงกระเป๋า เธอลุกขึ้นเดินไปดูพนักงานคนอื่นๆที่กำลังเดินเลือกซื้อของอยู่ในร้านสะดวกซื้อแถวนั้นและบางคนก็แวะทานอะไรที่ร้านริมทาง “ครบแล้วนะ โอเคๆออกรถได้” อิงนภายื่นคอยาวหันมามองจำนวนสมาชิกในรถเมื่อเห็นว่าครบถ้วนเธอจึงสั่งให้ออกรถ

“หายเมื่อยหรือยัง”บรีสลองถามคนข้างๆที่เพิ่งขึ้นมาบนรถ “ยัง”ณภัทรตอบห้วนๆแล้วสั่งให้คนขับรถออกรถได้ “แล้วทำไมไม่ทายา”บรีสมุ่นคิ้ว อยู่สึกผิดอยู่นิดๆที่เป็นสาเหตุให้เจ้านายคนสวยเกิดอาการเมื่อยล้า
“ไม่มีคนทาให้”ณภัทรตอบหน้าตาย

“เอ้า..”บรีสเริ่มนึกโมโห นี่จะพูดดีๆตอบดีๆบ้างไม่ได้หรือยังไง “ยาละ”บรีสถามอีกเธอเริ่มหงุดหงิดกับดารกระทำของคนข้างๆ “คุณจะทาให้?” ณภัทรถามกลับแล้วยิ้ม “เรื่องอะไร งั้นก็เมื่อยต่อไปแบบนั้นแหละ” เรื่องอะไรเธอจะต้องยอมทำตามใจคนอย่างณภัทรไปทุกเรื่อง เจ้าตัวกอดอกแล้วส่งค้อน(อีกแล้ว)ให้เจ้านายคนสวย


บรีสแอบมองเจ้านายคนสวยเป็นพักๆ ณภัทรยังคงสนใจแต่หนังสือเล่มเล็กที่กำลังอ่านอยู่ บรรยากาศมันช่างน่าเบื่อเหลือเกิน บรีสถอนหายใจมองวิวภายนอกออกไปไกลสุดสายตา ณภัทรเริ่มขยับตัว เจ้าตัวบีบไหล่ของตัวเองและขยับคอเบาๆดูก็รู้ว่าคงจะล้าอยู่ไม่น้อย จนแล้วจนรอดเธอก็อดไม่ได้สิน่า “ยาล่ะ”บรีสตัดสินใจถาม

“จะทาให้?” ณภัทรเลิกคิ้วถามอีกครั้ง “อยู่ไหนล่ะ”บรีสพ่นลมหายใจออกจากปากเบาๆ ณภัทรอมยิ้มแล้วหยิบหลอดยาในกระเป๋าถือให้คนข้างๆ “ยิ้มอะไร”บรีสมุ่นหน้าถาม ทำไมกันนะ เธอถึงต้องยอมทำตามที่ณภัทรต้องการอยู่ร่ำไป “เปล่า”ณภัทรตอบเบาๆแต่ก็ยังคงยิ้มอยู่ “กวน...”บรีสเปรย แล้วจึงบีบยาใส่มือเตรียมนวดให้เจ้านายจอมเอาแต่ใจ

“หันหลังมาสิ”บรีสสั่ง? ณภัทรยอมทำตามอย่างว่าง่ายเธอปลดกระดุมเสื้อตัวสวยออกเพื่อให้บรีสทายาได้ถนัดขึ้น



“ตรงนี้ใช้มั้ย” บรีสค่อยๆบรรจงบีบนวดเบาๆบริเวณไหล่ของณภัทร เจ้านายคนสวยขยับตัวเข้าใกล้บรีสมากขึ้น

“ดีขึ้นมั้ย”หลังจากบีบนวดอยู่ซักพักบรีสก็คลายมือออก  “ตรงนี้ด้วย” ณภัทรคลายยิ้มแล้วจับมือของหมอนวด? จำเป็นให้ตรงตำแหน่งตามที่เธอต้องการ “ระ..รู้แล้วๆ บอกเฉยๆก็ได้ไม่ต้องจับ” บรีสหน้าแดง รีบสะบัดมือออก ณภัทรแอบยิ้มแล้วหันหน้ากลับ ปล่อยให้คนที่ยังเขินอยู่เริ่มบีบนวดที่ต้นคอและบ่าของเจ้าตัว แต่ไม่รู้ว่าเพราะความเขินหรือเพราะนึกอยากจะแก้แค้นคืนบ้าง น้ำหนักมือของบรีสเลยออกจะแรงไปนิด

“เบาๆหน่อยสิคุณ จะช่วยให้หายปวด หรือจะทำให้ปวดหนักกว่าเก่า”
“เชอะ”บรีสแยกเขี้ยวใส่ด้านหลังของณภัทรแล้วลดแรงมือของตัวเองลง
“เสร็จแล้ว”บรีสบอกเจ้านายคนสวยที่ดูจะสบายเกินไปแล้ว “ขอบคุณ”ณภัทรหันมาบอกเบาๆพร้อมยิ้มให้ รอยยิ้มที่ทำให้คนที่ได้ฟังถึงกับหน้าแดงขึ้นมาเอาดื้อๆ บรีส พยักหน้าแล้วรีบหลบสายตาเจ้านายคนสวยมองออกไปนอกรถ เอาอีกแล้วจู่ๆหัวใจของเธอก็เล่นเต้นแรงขึ้นมา ทำไมกันนะ

ในที่สุดเวลาที่บรีสรอคอยก็มาถึงหลังจากที่นั่งตัวเกร็งมีแอบเหลือบมองคนข้างๆเป็นพักๆ ตอนนี้คณะเดินทางของบริษัทมาถึงยังรีสอร์ทที่เป็นที่ถ่ายทำแล้ว ทุกคนกำลังง่วนอยู่กับการจัดฉาก ของประกอบฉาก แสง กล้อง โน้นนี่นั้นดูแล้วชวนปวดหัว บรีสนั่งรอทีมของคอสตูมและช่างแต่งหน้าอยู่กับนางแบบคนอื่นๆที่กำลังจับกลุ่มคุยกัน ส่วนตัวเธอนั้นได้แต่มองคนโน้นทีคนนี้ทีเพราะไม่เคยทำอะไรแบบนี้  ส่วนณภัทรตั้งแต่มาถึงก็หายไปไหนแล้วไม่รู้ แต่ก็ดีเหมือนกัน นั่งตัวเกร็งมองหน้ากันมาเกือบทั้งวันแล้วขอพักสายตาบ้างเถอะ บรีสคิด

 “เอ้าคุณน้อง เตรียมตัวเปลี่ยนชุดกันได้แล้วนะคะ ให้ไวค่ะๆ” ประเทืองร่างยักษ์ที่ดูเหมือนจะเป็นคอสตูมเดินมาบอกเธอและนางแบบคนอื่นๆ ทุกคนแยกย้ายกันไปพร้อมกับ ชุดว่ายน้ำ บราเซีย ซึ่งเป็นสินค้าที่จะต้องถ่าย มือใหม่อย่างบรีสก็เดินตามคนอื่นๆไปด้วย เห็นใครทำอะไรเธอก็แอบมองแล้วแอบทำตาม ราวแขวนชุดที่มีอยู่หลายราวจะมีชื่อของนางแบบแต่ละคนแขวนไว้ บรีสเลยลองเดินหาราวแขวนชุดที่น่าจะเป็นของเธอบ้าง แต่กลับหาไม่เจอ

“เอ๋...”บรีสมุ้ยหน้าเพราะเธอหาไม่เจอจริงๆจะเอ่ยปากถามใครก็ดูจะไม่มีคนสนใจ เธอจึงได้แต่ยืน เก้ๆกังๆอยู่อย่างนั้น “คุณน้อง ทำไมยังไม่ไปเปลี่ยนชุดล่ะค๊า”คอสตูมคนเดิม เดินมาถามด้วยความสงสัย “ไม่เห็นมีชื่อเลยค่ะ” บรีสเจื่อนยิ้มบอกเบาๆ “ชื่ออะไรคะ คุณน้อง” เขาถามพร้อมมองรายชื่อในแฟ้ม
“บรีสค่ะ” เจ้าตัวเอ่ยบอก คอสตูมเปิดไล่รายชื่อในกระดาษไปทีละแผ่น “อ้อ...ของคุณน้องอยู่ทางโน้นนะคะ มาค่ะ ตามคุณพี่มา” เขาบอกแล้วเดินนำบรีสไปอีกอีกโซนหนึ่งที่ดูสงบกว่า หน้าห้องมีป้ายติดอยู่ว่า “VIP” ตัวเบ่อเริ่ม บรีสเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล หรือว่า...แล้วก็เป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ เธอเปิดประตูเข้าไปก็พบกับเจ้านายจอมเอาแต่ใจกำลังคุยอยู่กับช่างแต่งหน้าและทีมงานคนอื่นๆ เธอมุ้ยหน้าทันทีที่ณภัทรหันมามองเธอ

 “มาแล้วเหรอคุณ” ณภัทรว่า แล้วจึงบอกให้คนอื่นๆออกจากห้องไป เหลือเพียงแค่เธอและณัทร “ทำไมชั้นต้องมาอยู่ที่นี่ด้วย” บรีสยังยืนนิ่งอยู่หน้าประตู “เปลี่ยนชุดนี้”ณภัทรไม่อธิบายเพียงแค่หยิบชุดที่ราวแขวนให้กับเธอ “นี่คุณ ชั้นถามว่าทำไมชั้นต้องมาอยู่ที่นี่ แล้วทำไมคนอื่นถึงอยู่ทางโน้นกันหมด คุณจะแกล้งอะไรชั้นอีก” บรีสไม่ไว้ใจจากประสบการณ์ที่ผ่านๆมา

ณภัทรส่ายหน้าแล้ววางชุดที่บรีสจะต้องเปลี่ยนลงที่โซฟาตัวยาวข้างๆ “ชั้นถาม...”บรีสคาดคั้นจะเอาความจริงจากณภัทรให้ได้ มันต้องมีอะไรแน่ๆ “ขอโทษที่มาช้าค่ะ” เสียงๆหนึ่งดังแทรกขึ้น นางแบบสาวอีกคนที่ผู้กับกำบอกว่าจะบินมาก่อนนั้น วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมกับช่างเมคอัพและคอสตูม
“เชิญค่ะ” ณภัทรเจื่อนยิ้มแล้วปล่อยให้นางแบบที่พึ่งมาถึงเข้ามาด้านใน บรีสมองตามไปด้วยใบหน้างงๆ “ที่ชั้นต้องแยกคุณมาที่นี่เพราะคุณยังมือใหม่ เดียวจะทำคนอื่นเสียเวลา อีกอย่างทีนี่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า หรือคุณอยากจะโชว์?” ณภัทรอธิบายให้คนที่ยังยืนอึ้งๆอยู่ฟัง

“รีบไปเปลี่ยนชุด อย่าทำคนอื่นเสียเวลา” สีหน้าของณภัทรแสดงว่าเธอกำลังพูดจริงจังอยู่ไม่มีท่าทีว่าจะเป็นเรื่องแกล้งกันอย่างที่บรีสเข้าใจ เจ้าตัวจึงได้แต่ก้มหน้ารับผิดเพราะความอคติที่มีต่ออีกคน
“อ้อ...ไอ้เรื่องที่คุณคิดน่ะ คุณคิดเหรอว่าถ้าชั้นจะทำจริงๆแล้ว...คุณจะหนีพ้น” ณภัทรขยับเข้าใกล้คนตรงหน้าแล้วกระซิบบอกเบาๆ “คุณ...” บรีสตาโตมองค้อนเจ้านายตัวดี รีบคว้าชุดที่ณภัทรเตรียมให้หายเข้าไปให้ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น