When Devil falling in love 01


“เฟิร์น กลับกันเหอะยืนรออะไรอยู่ได้ตั้งนาน ฝนจะตกแล้วนะ”
“อีกเดียว ขออีก 2นาที” ชั้นไม่สนคำทักท้วงของน้องชาย อีกไม่กี่นาทีชั้นต้องลาจากที่แห่งนี้แล้ว ได้โปรดเถอะ ขอแค่ได้เห็นหน้าอีกซักครั้งก็ยังดี “เฟิร์นไปเหอะฝนจะตกแล้ว” น้องชายตัวดีดึงแขนชั้น และเมื่อหยาดฝนเริ่มโปรยปรายชั้นก็รู้แล้วว่ามันไม่มีความหมายอะไรอีกแล้วที่ยังจะอยู่ที่นี่ต่อไป ดีจังที่ฝนตกเพราะมันคงจะช่วยปกปิดร่องรอยจากดวงตาของชั้นว่าอะไรคือน้ำตาและอะไรคือน้ำฝน..

3 ปีผ่านไป
“เอาล่ะเฟรชชี่ใหม่ออกมาข้างหน้านิ”ชั้นล่ะเบื่อสุดจะทนกับกฎบ้าๆบอๆของพวกรุ่นพี่ ทำไมต้องมีรับน้อง ทำไมต้องมีเชียร์ ไร้สาระชะมัด ก็ใช่น่ะสิเพราะตอนนี้ชีวิตของชั้นมันก็ไม่ค่อยจะมีสาระอะไรอยู่แล้วนี่นะ เรียนๆให้มันจบไป ทำงานหาเงินแต่งงาน มีลูก เลี้ยงลูก แก่ ป่วย ตาย ทำไมล่ะก็ชีวิตคนเรามันมีเท่านี้ไม่ใช่เหรอ จะมาฝันหวานว่าจะต้องทีรักแสนหวานชีวิตแสนสุขน่ะ มันมีแต่ในนิยายเท่านั้นล่ะ ชั้นนึกพาลโกธรไปถึงเจ้าน้องชายฝาแฝดของชั้นที่สัญญาเป็นดิบดีว่าจะโดดเชียร์ด้วยกันแต่สุดท้ายมันกลับหายต๋อมไปกับสาวอักษรซะนี่ จะมีอะไรน่าเบื่อไปกว่านี้อีกมั้ย 

“เซ็งโว้ย” นั่นคือเสียงที่ชั้นเอาแต่ตะโกนอยู่ในใจ“เฟิร์นๆ” เสียงพี่รหัสของชั้นเรียก สงสัยเพราะชั้นจะเอาแค่เหม่อคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ถึงไม่ทันสังเกตว่าตอนนี้คนอื่นๆออกไปยืนข้างหน้าเตรียมรอเจ้าพวกรุ่นพี่ตัวดีแกล้งอีกแน่ๆ  “ใครๆ เจ้าเฟิร์นเหรอ อืมๆโอเคๆ” เสียงกระซิบกระซาบของพวกรุ่นพี่ทำให้ชั้นอดสงสัยไม่ได้ต้องหันไปมอง ซักพักพวกรุ่นพี่ก็พยักหน้างืมๆงำๆ แล้วสั่งให้ชั้นและคนอื่นๆอีก 2-3คนอยู่ต่อ ส่วนที่เหลือกลับไปนั่งที่เดิม ชั้นหันไปมองพี่รหัสที่ฉีกยิ้มกว้างมาให้ชั้นและนั่นยิ่งทำให้ชั้นรู้สึกไม่ดีมากขึ้นไปอีกเพราะเมื่อไรที่พี่รหัสชั้นยิ้มแบบนี้มันมักจะเป็นเรื่องทุกที “ได้แล้วนะโอเค งั้นก็เรียงตามนั้นเลย 1 2 3 4 เอ้าไอ้บอสจดขึ้นกระดานดิอย่ามั่วแต่ยิ้มหวานให้น้องอยู่” บอสที่ว่านั่นก็คือรุ่นพี่ปีสองที่จ้องจะจีบชั้นตั้งแต่เจอหน้าชั้นวันแรกตอนปฐมนิเทศน์ของคณะ “เบอร์อะไร ทำไมต้องจดขึ้นกระดานแล้วทำไมทุกคนเอาแต่มองชั้น”ชั้นยังไม่ค่อยเข้าใจนัก มารู้แน่ก็ตอนเจ้าพี่รหัสตัวดีประกาศนี่แหละ “นะครับ ปีนี้ก็อย่างที่เห็นว่า สวยๆหายากเหลือเกินทำไงได้ก็พวกเราวิดวะนี่นะ”

“เห๋...สวยงั้นเหรอ”ชั้นเริ่มรู้สึกงงๆกับคำพูดของพวกรุ่นพี่ แต่เมื่อหันไปมองสิ่งที่อยู่บนกระดานชั้นก็ถึงบางอ้อทันที “ดาววิศวะ” ให้ตายเหอะไอ้พวกพี่บ้ามันคิดอะไรกันอยู่ก็บอกแต่แรกแล้วไงว่าชั้นไม่อยากยุ่งกะเรื่องพวกนี้ แค่เรียนอย่างเดียววันๆก็ปวดหัวจะตายอยู่แล้ว “เฟิร์นไม่เอานะพี่ สละสิทธิ์ บายๆ”ชั้นตะโกนเสียงดังบอกรุ่นพี่ เลยทำให้สายตาทุกคู่ให้ห้องประชุมหันมามองที่ชั้นเป็นตาเดียวกัน “ไอ้เฟิร์นไม่ได้ แกต้องลง อย่าให้เสียชื่อชั้น อย่าให้เสียชื่อว่าเป็นเด็กวิดวะ”
“แล้วมันเกี่ยวไรกะเป็นวิดวะอะ”ชั้นนึกในใจมุ้ยหน้าให้พี่รหัส “เข้าใจมั้ย อย่าให้น้อยหน้าเด็กอักษรให้มันรู้ซะม่างว่าวิดวะไม่ใช่ดีแต่เถื่อนไปวันๆ สวยๆของเราก็มีเข้าใจ๋”พี่รหัสตอกย้ำความมึงงงให้แก่ชั้น “แล้วเฟิร์นไปเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย คนอื่นก็มีก็เลือกๆไปเซ่พี่”ชั้นเริ่มโวย “ไม่ได้ แกต้องลง ถ้าแกไม่ลงชั้นจะตัดสายกะแก”

“โห้ยยยไรอะ” ชั้นเบ้หน้า ดูท่าคราวนี้พี่รหัสชั้นจะเอาจริงถึงขั้นยื่นคำขาด “ไม่รู้ล่ะ ไปยืนในแถวเลยแล้วก็โปรยยิ้มเข้าไว้ สวยๆอะเข้าใจมั้ย” พี่รหัสชั้นรีบดันหลังให้ชั้นกลับไปยืนที่เดิม “ทำไมต้องยิ้ม ไม่ได้ประกวดนางสาวไทยนะ และที่สำคัญ วิดวะย่ะ ไม่เถื่อนไม่ถึกไม่ซกมกก็ไม่ใช่วิดวะอะสิ”ชั้นแอบคิดแต่ก็ยอมทำตามที่พี่รหัสว่าแต่โดยดี  “ตกลงว่าไงหญิง น้องแกเอาไงลงไม่ลง”

“ลงสิลง เคลียแล้วเรียบร้อย” เวลาผ่านไปอยู่หลายนาทีกว่าที่ชั้นจะได้กลับไปนั่งที่เดิม “เฟิร์นต้องได้แน่เลย ฝนก็ลงคะแนนให้เฟิร์นนะ” โอ๊ยๆนี่ก็อีกคน ยัยฝน ชั้นนึกอยากจะบ้าตายกับเพื่อนคนนี้ ทั้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วว่าชั้นไม่ชอบ ยังจะโวตคะแนนให้ชั้นอีก มันน่าปวดหัวซะจริง   “ลงคะแนนกันเรียบร้อยแล้วนะ โอเคได้เวลาๆ” เสียงนับคะแนนดังขึ้นเป็นระยะๆพร้อมความรู้สึกไม่ค่อยดีของชั้น “ไม่เอานะ เพี้ยงๆ”ชั้นได้แต่หลับตาปี๋ภวนาขอให้ชั้นไม่ต้องได้เป็นไอ้ดาวเดิวอะไรบ้าบออย่างที่พี่รหัสชั้นต้องการ แต่เมื่อลืมตาความจริงแสนโหดร้ายก็รอชั้นอยู่ตรงหน้านั่นเอง ไม่ต้องเดา คะแนนโวทของชั้นนำโด่งยาวเป็นหางว่าวไม่ต้องสงสัย
“นรกชัดๆ”นั่นเป็นคำเดียวที่ชั้นนึกออกในตอนนี้ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น