“ฝ้ายจ๋าๆ” เสียงเรียกชื่อที่ฟังออกแนวครวญครางดังขึ้นทันทีที่สาวน้อยเพื่อนซี้ของบริ๊งหันไปมองเจ้าตัวที่กำลังวิ่งหอบๆมาหาที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าคณะ “ว่าไงจ๊ะ” ฝ้ายยิ้มแล้วยื่นแก้วน้ำอัดลมที่ตัวเองเพิ่งซื้อมายื่นให้“เหนื่อยๆ” บริ๊งว่าแล้วเกยคางของตัวเองลงบนโต๊ะ “ฝ้ายช่วยบริ๊งทำรายงานหน่อยสิ ปวดหัวจะตายแล้ว แก้ตั้งหลายรอบแล้ว อาจารย์ยังไม่ให้ผ่านเลย” บริ๊งบ่นแล้วควักแฟ้มรายงานออกมาจากกระเป๋า “ทำไมงั้นล่ะ” ฝ้ายมุ่นหน้าถาม “ม่ายรู้ จารย์ไม่ชอบขี้หน้าบริ๊งมั้ง” เจ้าตัวบ่นกระปอดประแปดนึกถึงหน้าอาจารย์จอมเฮี้ยบที่ไม่ค่อยจะผ่อนปรนให้กับนักศึกษานัก “ฝ้ายผ่านยังอะ”บริ๊งถอนหายใจแล้วเหลือบมองเพื่อนที่นั่งข้างๆ “ผ่านแล้ว”ฝ้ายอมยิ้มบอกคนที่กำลังเซ็งเต็มที่ ให้หูผึ่งตาโตมองอีกคนทึ่งๆ “ทิ้งเค้า”เจ้าบริ๊งเบ้หน้าเมื่อรู้ว่าเพื่อนผ่านวิชาโหดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“บริ๊งก็พยายามหน่อยสิ”ฝ้ายยิ้มขำมองดูบริ๊งด้วยความน่าสงสาร “เห้อ....”เจ้าตัวดีถอนหายใจไม่รู้จะต้องแก้รายงานอีกซักกี่รอบ “บริ๊งๆ”คนที่กำลังเซ็งสุดๆหันไปตามเสียงเรียกที่ได้ยิน “พี่มุก...”บริ๊งฉีกยิ้มกว้างแล้วรีบวิ่งไปหาหญิงสาวที่เอ่ยเรียกเธอ ฝ้ายมองตามเธอมุ่นหน้าเล็กน้อยเพราะเป็นคนที่เธอไม่รู้จัก ทั้งสองคนยืนคุยกันอยู่ซักพักบริ๊งก็จูงมือผู้หญิงที่ชื่อมุกข้ามถนนเดินมายังโต๊ะที่ฝ้ายนั่งอยู่ “พี่มุก นี่ฝ้ายนะ เพื่อนซี้บริ๊ง” เจ้าตัวดีรีบอธิบายพร้อมรอยยิ้ม “สวัสดีค่ะ”ฝ้ายยกมือไหว้น่าเอ็นดู หญิงสาวรับไหว้แล้วเจือนยิ้มให้สาวน้อยหน้าหวานที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ “สวัสดีค่ะ”เธอเอ่ย
“พี่มุกเป็นรุ่นพี่ที่ชมรมฟันดาบที่จบไปแล้วน่ะ”เจ้าบริ๊งยิ้มอธิบายให้เพื่อนฟัง ฝ้ายพยักหน้าเข้าใจ คงเพราะรุ่นพี่คนนี้นี่เองที่ทำให้บริ๊งสนใจกีฬาประเภทนี้ “เท่ห์ใช่มั้ยล่ะ” บริ๊งว่าแล้วแกล้งทำท่าโค้งคำนับมุกให้ฝ้ายดู มุกยิ้มขำแล้วลูบผมบริ๊งเบาๆ “แล้วพี่มุกมาได้ยังไงคะ” เจ้าบริ๊งชวนคุยต่อ “คิดถึงเราไง บริ๊งไม่คิดถึงพี่หรือไง”เธอแกล้งแซวแล้วยิ้มขำ เล่นเอาเจ้าบริ๊งออกอาการเขินขึ้นมาดื้อๆ “พี่มุกละก็”เจ้าตัวแสบเขิน บิดไปบิดมา “เป็นไงบ้าง ได้ไปซ้อมบ้างหรือเปล่า” มุกเอ่ยถาม
“ก็เรื่อยๆค่ะ ถ้ามีเวลา”บริ๊งอธิบายแล้วดูดน้ำอัดลมอีกอึกใหญ่ “แล้วตกลงเลือกได้หรือยังว่าจะเล่น เซเบอร์ หรือ ฟอยล์”
“อย่างบริ๊งก็ต้อง ฟอยล์แหละพี่มุกพริ้วขนาดนี้” เจ้าตัวดีว่าเมื่อมุกเอ่ยถามถึงประเภทดาบที่บริ๊งสนใจจะเล่น “ไวเป็นลิงน่ะสิเรา”มุกแกล้งแซวแล้วหัวเราะ ฝ้ายนั่งมองทั้งสองคุยกันเงียบๆส่วนมากจะเป็นเรื่องของกีฬาฟันดาบที่ทั้งสองคนสนใจทำให้เธอไม่ใคร่จะเข้าใจนักว่าหมายถึงอะไร และก็ดูบริ๊งจะสนิทสนมกับมุกอยู่ไม่น้อย เธอได้แต่ยิ้มเป็นพักๆเมื่อทั้งคู่หันมามอง “โอเคงั้นถ้ามีอะไรก็ติดต่อมานะเรา เดียวพี่แวะไปหาโค้ชที่ชมรมก่อนนะ”
“งั้นเดียวบริ๊งไปด้วย”เจ้าตัวดียิ้มแป้น แล้วฝากข้าวของไว้ที่ฝ้ายก่อน ส่วนตัวเธอรีบเกี่ยวแขนหญิงสาวที่ฝ้ายเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก เดินไปพร้อมกัน ฝ้ายนั่งรออยู่ไม่นานนักเจ้าตัวดีก็วิ่งกลับมาพร้อมฉีกยิ้มกว้างนั่งลงข้างๆ “เรียบร้อยแล้วเหรอ”เธอถาม “เรียบร้อยแล้วล่ะ”บริ๊งพยักหน้า “แล้ว......”บริ๊งยิ้มแล้วมองปึกรายงานของตัวเองที่อยู่บนโต๊ะราวกับจะเป็นการขอร้องฝ้ายอยู่ในที “โอเคๆ ก็ได้”ฝ้ายยิ้มแล้วตอบตกลงที่จะช่วยเพื่อนทำรายงานที่ต้องแก้ เย็นวันนั้นสองสาวเพื่อนซี้จึงตกลงว่าจะไปทำรายงานกันที่ห้องของฝ้าย โดยแวะหาซื้อของกินแถวตลาดนัดๆข้างๆมหาวิทยาลัยติดมือไปด้วย “จะกินหมดเหรอบริ๊ง”ฝ้ายยิ้มขำเมื่อเห็นสองมือของเพื่อนเต็มไปด้วยถุงหิ้วของกินที่มีทั้งขนม ของทานเล่น ผลไม้และอื่นๆ
“บริ๊งซะอย่าง”เจ้าตัวดียิ้มแป้นบอกแล้วรีบเดินตามเพื่อนเข้าไปภายในหอพัก สองสาวช่วยกันทำรายงานที่ต้องแก้ แต่ส่วนมากจะเป็นฝ้ายเสียมากกว่าที่เป็นคนทำ บริ๊งจะชะโงกหน้ามาดูฝ้ายที่หน้าคอมบ้างเป็นพักๆ ส่วนเจ้าตัวกลับนั่งจุ่มปุกอยู่หน้าทีวีและแน่นอนว่า เบื้องหน้าของเจ้าตัวเต็มไปด้วยของกินมากมายที่ซื้อมา “ถ้าไม่ได้ฝ้ายช่วย บริ๊งตายแน่ๆ”เจ้าตัวดีเดินมาบอกข้างๆในมือก็ยังถือไม้เสียบลูกชิ้นปิ้งอยู่ หลังจากอิ่มบริ๊งถึงมานั่งข้างๆเพื่อนและเริ่มพิมพ์รายงานเองโดยมีฝ้ายคอยบอกบทอยู่ข้างๆ นั่งทำงานไปได้ซักพัก เสียงมือถือของบริ๊งก็ดังขึ้นเจ้าตัวเห็นเบอร์ที่โทรมาก็รีบรับสาย แล้วขอตัวเพื่อนออกไปรับโทรศัพท์ที่ระเบียงห้อง “พี่มุกๆๆ”บริ๊งขานตอบเสียงดัง “ว่าไงจ๊ะ ทานข้าวเย็นหรือยังเรา”มุกถาม “เรียบร้อยแล้วค่ะ”บริ๊งตอบ “พรุ่งนี้ว่างมั้ยบริ๊ง” มุกถามต่อ “อืม...บริ๊งมีเรียนเช้าอะพี่มุก แต่ตอนบ่ายน่าจะว่าง”
“เหรองั้นพรุ่งนี้ตอนบ่ายไปช่วยพี่เลือกซื้อของหน่อยได้มั้ย อีก 2-3วันก็ต้องบินแล้วยังไม่ได้เตรียมแพ็คกระเป๋าเลย” เธออธิบาย “อุอุ ขี้เกียจเหมือนเจ๊เลย” บริ๊งได้ทีแอบเผาพี่ตัวเองเข้าให้ “ก็มันยังไม่ถึงเวลานี่นามุกอธิบาย “ได้ค่ะ งั้นเดียวถ้าบริ๊งเรียนเสร็จจะโทรบอกแล้วกัน” บริ๊งว่าแล้วคุยอยู่อีกไม่กี่ประโยคก็วางสายไป “ฝ้ายจ๋าๆๆๆ”เจ้าตัวดียิ้มระรื่นกลับเข้ามาในห้องก็ยังเห็นฝ้ายนั่งทำรายงานของตัวเองอยู่ที่เดิม “โห้...ไวจังจะเสร็จแล้ว”เจ้าตัวดีทำตาโตเมื่อเห็นรายงานของตัวเองคืบหน้าไปค่อนข้างเยอะแล้ว
“เอ่อ จริงสิ พรุ่งนี้ฝ้ายว่างมั้ย” บริ๊งรีบถามทันที “ ว่างสิ ทำไมเหรอ”ฝ้ายหันมาถาม “งั้นตอนบ่ายไปกับบริ๊งหน่อยนะ” เจ้าตัวแสบชวน “บริ๊งอยากไปไหนเหรอ”ฝ้ายแอบดีใจเพราะหลังๆมานี้ บริ๊งเองก็ยุ่งๆอยู่กับทั้งเรื่องรายงานของตัวเอง และเรื่องที่ชมรมฟันดาบ เธอจึงแทบไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนกับเพื่อนเท่าไรนัก “พี่มุกน่ะ จะชวนบริ๊งไปช่วยเลือกซื้อเสื้อผ้าอะ อีกไม่กี่วันพี่มุกต้องไปแข่งฟันดาบที่ญี่ปุ่นแว้ว “บริ๊งอธิบาย “ระ..เหรอ” ฝ้ายหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยแต่ก็รีบกลับมายิ้มเหมือนเดิมแล้วพยักหน้ารับตามที่เพื่อนของร้อง “รักฝ้ายที่ซู้ด” เจ้าตัวดียิ้มแป้นแล้วเข้าไปกอดเพื่อน โดยไม่ได้รู้เลยว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นทำให้อีกคนหวั่นไหวแค่ไหน
“บริ๊งฝ้ายเขียนสรุปให้...”ฝ้ายที่เป็นคนเขียนสรุปปิดท้ายรายงานใหม่ให้บริ๊งเอ่ยเรียกเพื่อนที่พิมพ์งานอยู่หน้าคอม แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของงานกลับหลับปุ๋ยฟุบหน้าลงไปกองกับคีย์บอร์ดเรียบร้อยแล้ว เธอยิ้มแล้วลุกขึ้นเดินไปหาเพื่อนที่เหมือนจะแอบละเมอบ่นพำพึมอะไรซักอย่าง “บริ๊ง ตื่นเถอะ”ฝ้ายสะกิดเรียก แล้วก็ดูเหมือนว่าพี่น้อง..คู่นี้(บรีซและบริ๊ง)จะขี้เซาเข้าขั้นด้วยกันทั้งคู่ นอกจากจะไม่ตื่นแล้วเจ้าตัวยังพยายามจะเบือนหน้าหลบพร้อมป่ายปัดคนที่กำลังสะกิดตัวเองอย่างรำคาน “งืมๆ...อีกสิบนาที..งึมๆ” บริ๊งละเมอ ฝ้ายแอบขำแล้วจึงหยิบผ้าห่มในห้องนอนมาคลุมให้เพื่อนส่วนตัวเองก็ใช้ NB อีกเครื่องของตัวเองพิมพ์งานที่ค้างของบริ๊งต่อไปจนเสร็จ
“บริ๊งตื่นเถอะ..ดึกแล้ว”ฝ้ายพยายามจะปลุกเพื่อนอีกแต่ก็ดูจะไม่เป็นผลจนเมื่อเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าของเจ้าตัวกรีดเสียงร้องลั่นนั่นแหละคนขี้เซาถึงจะได้สติ “แว๊ก”บริ๊งสะดุ้งเฮือกรีบถีบตัวลุกขึ้นแต่ก็ยังงัวเงียอยู่ “จะ..เจ๊เหรอ...แฮะๆ อยู่ห้องฝ้ายอะมาทำรายงาน...อืม ดึกแล้วอะใช่ โอเคเจ๊”เจ้าบริ๊งคุยอยู่กับพี่สาวได้ไม่กี่ประโยคก็ยิ้มแหยๆแล้ววางสายไป “ฝ้ายจ๋าๆๆ”เธอหันมามองเพื่อนพร้อมทำเสียงอ้อน “คืนนี้ขอบริ๊งค้างด้วยคนนะ....น้า...”เจ้าตัวดีอ้อน เพราะเมื่อดูเวลาก็ดึกมากแล้ว บรีซเลยบอกให้เธอค้างที่หอฝ้ายไปก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับ “อะ...อืม..ได้สิ” คนได้ยินคำขออ้อนๆมีหรือจะกล้าปฎิเสธเธอยิ้มน้อยๆให้เพื่อนแต่ภายในใจกลับเต้นโครมคราม “โห้..ฝ้ายเสร็จแล้วเหรอ เก่งจัง”บริ๊งนั่งลงมองหน้าจอโน๊ตบุ๊คของเพื่อนใกล้ๆ ใกล้เสียจนหน้าของคนทั้งคู่เกือบจะชนกัน “รักฝ้ายที่ซู้ดดด”แต่กลายเป็นว่าคนที่รู้สึกอะไรนั้นจะเป็นฝ้ายเพียงฝ่ายเดียวเพราะอีกคนนอกจากจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรแล้วเจ้ายังกระโดดกอดเพื่อนแถมยังเอาแก้มของตัวเองถูไถกับแก้มของฝ้ายอีกต่างหาก
“บะ...บริ๊ง..”ฝ้ายพึมพำ เจ้าตัวดีถึงร้อง”อุ้ย”เพราะตอนนี้ดันขึ้นไปนั่งบนตักของเพื่อนเสียแล้ว “งั้นเดียวบริ๊งสั่งปริ้นเลยนะ” บริ๊งยิ้มระรื่นแล้วรีบสั่งปริ้นรายงานของตัวเองทันที ทิ้งให้อีกคนที่ยังนั่งอยู่หน้าจอใจเต้นโครมครามขึ้นมาโดยไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยซักนิด “บริ๊งไปอาบน้ำก่อนนะ” บริ๊งว่าแล้วก็ฮัมเพลงอารมณ์ดีเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ
“ฝ้ายๆอาบน้ำๆ”เจ้าตัวแสบหลังจากอาบน้ำเสร็จออกมาเห็นฝ้ายฟุบหลับบ้างเลยมานั่งยองๆข้างเพื่อนแล้วใช้นิ้วเย็นๆของตัวเองจิ้มไปที่แก้มของเพื่อนจนฝ้ายตกใจสะดุ้งตื่น “อะ..อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ” ฝ้ายยิ้มแหยๆแล้วมองหน้าเพื่อนที่ขาววอกไปด้วยแป้งเด็กที่เจ้าตัวบรรเลงโปะทาเสียทั่วหน้า “อืม สบ๊ายสบายตัว ดมจิฝ้ายห๊อมหอมม”บริ๊งสูดลมหายใจแล้วขยับเข้าใกล้ฝ้ายเหมือนจะให้ฝ้ายลองดมตัวเองอย่างไงอย่างั้น “ฝะ..ฝ้ายไปอาบน้ำก่อนนะ”ฝ้ายขยับตัวหนีแล้วรีบเดินเข้าห้องน้ำไป
“อารายของเค้า”เจ้าตัวดีงง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรกลับรีบกระโดดขึ้นเตียงของเพื่อนทำราวกับเป็นเตียงของตัวเอง และเวลาเพียงไม่นานบริ๊งก็หลับไป มารู้สึกตัวอีกทีก็เช้าวันใหม่เสียแล้ว เจ้าตัวงัวเงียขยี้ตาปิดปากหาวหวอดๆ มองไปรอบห้องกลับไม่เห็นเพื่อนซี้ซะแล้ว บริ๊งลุกจากเตียงเดินไปที่โต๊ะกะว่าเช้านี้จะเอารายงานที่เพิ่งเสร็จไปเข้าเล่มใหม่แล้วส่งอาจารย์ได้ซักที แต่เจ้าตัวก็ต้องประหลาดใจอีกครั้งเมื่อรายงานของเธอตอนนี้เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริ๊งมุ่นหน้าเล็กๆ และคิดว่าคงจะไม่ใช่ใครที่ไหนน่าจะเป็นฝ้ายนั่นเอง “ฝ้ายไปเรียนก่อนนะ” โน๊ตเล็กๆที่เจ้าของห้องแปะไว้ บริ๊งยิ้มกว้างแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัว(ชุดเดิม)ตรงหรี่ไปมหาวิทยาลัยทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น