“ก๊อก ก๊อก”เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นเจ้าของห้องมุนหน้าเล็กน้อย “บริ๊งเปิดเอง”เจ้าตัวดีบอกขณะชะโงกหน้าออกมามองจากห้อง บรีซพยักหน้าให้น้องส่วนตัวเธอเดินหายเข้าไปในห้องกะว่าจะไปรื้อแม็กกาซีนเก่าๆให้ห้องออกมาทิ้งซักที บรีซใช้เวลาอยู่นานกว่าจะจัดการกองแม๊กกาซีนที่สุมๆอยู่ภายให้ห้องจนเจ้าตัวพอใจเธอค่อยๆยกตั้งหนังสือออกมาจากห้อง
“เฮ้อ..ค่อยโล่งหน่อย”บรีซปาดเหงื่อ ถอนหายใจแล้วบิดขี้เกียจ โดยที่ไม่ได้สังเกตุเลยว่ามีใครคนหนึ่งนั่งเท้าคางมองเธออยู่ที่โต๊ะทานข้าวกลางห้อง
“คุณ..”บรีซเบ้หน้าทันทีที่รู้ว่าใครกำลังมองเธออยู่ “แล้วนึกว่าใครล่ะ” ณภัทรอมยิ้มมองคนที่ส่งค้อนให้เธอ “มีธุระอะไร”บรีซว่าขณะยกตั้งหนังสือไปกองไว้ที่หน้าประตู “ให้ช่วยมั้ย”เห็นท่าทางทุลักทุเลของเจ้าของห้องณภัทรจึงเอ่ยปากอาสา
“น้องฉันล่ะ” บรีซทำเป็นไม่สนใจในสิ่งที่ณภัทรพูดเธอถามถึงน้องสาวของตัวเอง “ไปแล้ว”ณภัทรอมยิ้มตอบเบาๆ “มีธุระอะไร”หลังจากย้ายตั้งหนังสือทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยเธอก็เอ่ยถามสาวข้างห้อง “วันนี้ว่างมั้ย”ณภัทรถาม “ไม่ว่าง”ไม่ต้องคิดให้เสียเวลาว่าบรีซจะตอบว่าอะไรเจ้าตัวแทบจะตอบสวนคำถามของณภัทรทันทีโยไม่รอให้คนข้างห้องถามให้จบ
“คุณมีอะไรต้องทำเหรอ” ณภัทรยิ้มแล้วถามต่อ “เรื่องของชั้น ชั้นจะทำอะไรไม่เห็นต้องบอกคุณ” บรีซปรายตามองค้อนเจ้านายคนสวยแล้วเดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำเย็นๆดื่มคลายความกระหาย “โอเค ไม่ว่างก็ไม่ว่าง”ณภัทรยักไหล่เตรียมจะเดินออกไป ทิ้งความสงสัยไว้ให้คนที่บอกว่าไม่ว่างอยากรู้เต็มแก่ว่าณภัทรมีเรื่องอะไรกับเธอ
“เดียว”จนได้สิน่า บรีซนึกอยากตบปากตัวเอง ณภัทรเอี้ยวตัวหันมามองคนที่ยืนมองหน้าเธอ เจ้าตัวยิ้มน้อยๆมองเจ้าของห้องราวกับจะถามว่ามีอะไรเหรอ “แล้วถ้า....ชั้นว่าง..คะ..คุณมีธุระอะไร”บรีซหลบตาไม่ยอมมองณภัทรที่กำลังจ้องเธออยู่
“เย็นนี้มีเปิดตัวโปรดักส์ที่คุณเป็นพรีเซ้นเตอร์น่ะ เลยมาถามดูเผื่อคุณสนใจ”ณภัทรแถลงไขความสงสัยของบรีซ “ระ..เหรอ” บรีซตอบเบาๆ เธอเองก็ยังไม่ได้เห็นโฆษณาที่ตัวเองเป็นพรีเซ้นเตอร์ เธอก็ชักอยากจะเห็นขึ้นมาเหมือนกัน
“ว่าไง ยังไม่ว่างอยู่ไม๊” ณภัทรยิ้ม ตอบอย่างรู้ทันเมื่อเห็นท่าทางลังเลของบรีซ “ก็....ก็ไม่ได้ยุ่งอะไรเท่าไร”บรีซแก้ตัวเอาดื้อๆ “งั้น..ตกลงว่าว่างแล้ว”ณภัทรหลิ่วตามองเจ้าของห้องด้วยท่าทางขำๆ บรีซพเยิดหน้าเหมือนจะบอกว่าก็อย่างนั้นแหละ
“แล้วมีชุดใส่ไปหรือยัง”ณภัทรถามอีกเมื่อคนเล่นตัวยอมที่จะไปงานกับเธอ
“เยอะแยะ”บรีซตอบหน้าตายพลางคิดว่าแค่ชุดเรียบๆดูดีซักชุดมันจะมีอะไรหนักหนา
“โอเคงั้นคุณไปแต่งตัวแล้วกันแล้วไปเจอกันที่ห้องชั้นตอนบ่ายสอง”ณภัทรบอกเสร็จก็เดินออกจากห้องไป บรีซยักไหล่ บางคิดว่าเจ้านายของตัวเองจะแต่งเริดไปไหนเพราะตอนนี้ยังไม่บ่ายโมงด้วยซ้ำ จะใช้เวลาอะไรมากมายนักหนา เธอจึงยังเอ่อละเหย ลอยชายไปเรื่อยเปื่อยดูทีวี จัดห้องทานข้าวโดยที่ยังไม่ได้เลือกชุดที่จะใส่ด้วยซ้ำ
บรีซนอนเล่นดูทีวี เมื่อเห็นว่าใกล้เวลาแล้วเจ้าตัวถึงตัดสินใจที่จะอาบน้ำแต่งตัวเสียที เธอไม่ค่อยสนใจจะเลือกชุดที่ใส่เท่าไรเข้าทำนองเปิดตู้ไปเจอชุดไหนก็หยิบชุดนั้นนั่นแหละ
เมื่อถึงเวลาเจ้าตัวถึงออกจากห้องเดินไปเคาะประตูห้องข้างๆ “เข้ามาเลยชั้นไม่ได้ล็อก”เสียงแว่วเหมือนตะโกนไกลๆดังออกมาจากภายในห้อง บรีซจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปแล้วมองหาเจ้าของห้อง
“รอเดียวนะคุณ” ณภัทรตะโกนออกมาจากภายในห้องนอน บรีซจึงเดินดูภาพวาดของเจ้าของห้องไปเรื่อยเปื่อย รูปบนผนังที่เจ้าน้องสาวตัวดีเคยบอกว่าเสร็จแล้วนั้นเธอก็เพิ่งจะได้เห็น เธอทึ่งในความสามารถของเจ้าของห้อง ไม่น่าเชื่อว่าคนกวนประสาทแบบนั้นจะมีความอ่อนโยนได้ถึงขนาดนี้ บรีซไล้มือไปตามลายฝีแปรงที่ดูอ่อนโยน และผู้หญิงในภาพนั้นก็ดูสวยเสียจนเธอใช้เวลามองมันค่อนข้างนาน กว่าที่เธอจะละสายตาแล้วเดินไปมองงานชิ้นอื่นๆของณภัทร
ภายในห้องไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเท่าไรนักจากครั้งล่าสุดที่เธอมาเยือนซึ่งก็เป็นค่อนข้างนานแล้ว “พร้อมหรือยังคุณ” บรีซหันไปมองตามเสียงทักของเจ้าของ แล้วเธอก็ต้องได้ตาค้างอีกครั้งเพราะณภัทร และเธอก็เข้าใจได้ในทันทีว่าทำไมณภัทรถึงบอกให้เธอรีบแต่งตัว ชุดราตรียาวสีขาวเข้ารูปดูโดดเด่นที่ณภัทรใส่นั้นทำให้เธอได้อึ้ง ผิดกับชุดที่เธอใส่โดยสิ้นเชิง
“ชั้นไม่ได้บอกคุณเหรอว่างานนี้ค่อนข้างเป็นทางการ”ณภัทรอมยิ้มแล้วมองดูบรีซตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า เธอแอบยิ้ม “แล้วชุดนี้มันไม่เป็นทางการตรงไหนล่ะ” บรีซกระพริบตาแล้วเบือนหน้าหลบ ณภัทรช่างดู...ใจของเธอเต้นแรงไม่ใช่เพราะชุดที่ณภัทรใส่เป็นเป็นตัวคนใส่ต่างหากที่ทำให้ใจของเธอเกิดอาการชึ้นมาเอาดื้อ
“ชั้นก็ยังไม่ได้ว่าอะไรนิ ก็คุณบอกเองว่ามีชุดแล้ว” ณภัทรนั่งลงที่โซฟากลางห้องแล้วเริ่มหยิบเครื่องประดับที่เลือกไว้นั้นใส่ “แล้วใครจะกล้าไป”บรีซแอบบ่นอุบอิมขณะก้มมองสภาพเสื้อผ้าของตัวเอง
“คนได้มองกันทั้งงาน”บรีซแอบนึกอีก
“คุณ...”ณภัทรเอ่ยเรียก
“อะไร”บรีซเริ่มหงุดหงิดและชักไม่อยากจะไป “ช่วยหน่อยได้มั้ย”ณภัทรเอี้ยวตัวมามองพร้อมยื่นสร้อยคอชิ้นสวยให้บรีซ “อะ..อืม”บรีซพยักหน้าแล้วรับสร้อยคอจากณภัทรมาบรรจงค่อยสวยให้เจ้าของห้อง ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งเห็นอะไรได้ชัดเจนขึ้น ใจของเธอก็ยิ่งเต้นเรง
“เป็นอะไรไป บรีซเอ้ย”เธอนึกตำหนิตัวเอง
“ขอบคุณ” ณภัทรหันมาของคุณรอยยิ้มที่ได้เห็นทำเอาบรีซได้อายหน้าแดงขึ้นมาอีกตลบ “อะอืม”เจ้าตัวตอบแล้วรีบเบือนหน้าหลบ ณภัทรแอบยิ้ม เธอบรรจงใส่กำไลข้อมือที่เข้าชุด และตุ้มหู มองคนที่แกล้งทำเป็นเดินมองของเธอไปรอบห้อง
“แน่ใจเหรอว่าจะไปชุดนั้น”ณภัทรถามอีกครั้ง “ไม่ไปแล้ว”บรีซหันมามองค้อนแล้วเม้มปากตอบ “ทำไมล่ะ”ทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้วแต่ณภัทรก็ยังอดไม่ได้ที่จะแกล้งถาม “ก็เห็นอยู่ยังจะถาม อีกอย่างงานแบบนั้นคงไม่เหมาะกับชั้นหรอก”บรีซอธิบายเตรียมจะกลับห้อง
“เดียวสิ”ณภัทรยิ้ม
“อะไรอีกล่ะ” บรีซหันมามองค้อนเจ้านายคนสวยที่ยืนอมยิ้มมองเธอ
“มานี่”ณภัทรว่าแล้วรั้งข้อมือของบรีซให้เดินตามเธอเข้าไปด้านมนห้องนอน “อะ..อะไร จะพาชั้นไปไหนปล่อยนะ” บรีซเกร็งตัวก็เล่นมาจับเนื้อต้องตัวเธอแบบไม่ทันรู้ตัวเอาดื้อๆ “ตามมาน่า”ณภัทรว่าพร้อมมุ่นหน้าลงเพียงเท่านี้ บรีซก็ไม่กล้าขะขัดขืนอะไรอีก เธอจำต้องเดินตามเจ้าของห้องเข้าไปภายในห้องนอน “ถอดสิ”ณภัทรเอ่ยบอก
“อะไรๆ”บรีซโพล่งตาโตแล้วมองหน้าณภัทรงงๆ “ชุดน่ะสิ ถอดออก”ณภัทรสั่งแล้วเดินหายเข้าไปหลังฉากกั้นแต่งตัว
“เอะอะก็ให้ถอดๆ คราวทีแล้วก็ทีแล้ว”บรีซแอบบ่นเพราะครั้งก่อนณภัทรก็สั่งเธอแบบนี้เช่นกัน “ชอบมั้ย”ณภัทรเดินกลับออกมาพร้อมชุดเดสยาวสีน้ำเงิน “หือ”บรีซตาโตเมื่อได้เห็นชุดที่ณภัทรถือมา “คุณเตรียมไว้ให้ชั้นเหรอ” เจ้าตัวคนถามออกอาการอึ้งอยู่ไม่น้อย “เปล่า พอดีชั้นชอบลายมันเลยซื้อเก็บๆไว้เฉยๆ” ณภัทรตอบสีหน้าเรียบเฉยทำเอาคนที่ออกอาการปลื้มในตอนแรกถึงกับหุบยิ้มไม่ทัน
“ชิ”บรีซเบ้ปาก “รีบๆไปลองซะสิคุณ เสียเวลานานแล้วนะเดียวรถติด” ณภัทรยื่นชุดให้บรีซโดยที่ตัวเองถอยออกห่างเพื่อจะได้สังเกตุได้ง่ายขึ้น “แล้วทำไมชั้นต้องเปลี่ยนตรงนี้ด้วยเล่า”แม้ว่าจะพอใจชุด(ที่ถือ)อยู่ค่อนข้างมาก แต่ทำไมเธอต้องมาโชว์หุ่นให้เจ้านายดูด้วยล่ะ
“แล้วคุณจะถอดตรงนี้ทำไมล่ะ “ณภัทรยิ้มขำแล้วเบนสายตาไปที่ฉากกั้นเปลี่ยนชุดด้านหลังตัวเอง บรีซถึงกับหน้าแดงที่เผลอพูดอะไรเปิ่นๆออกไปต่อหน้าณภัทร “ก็มาบอกให้ถอดๆ ก็นึกว่า..”บรีซบ่นพึมพำมองค้อนเจ้านายคนสวยแล้วรีบเดินหลบเข้าไปด้านหลังฉากกั้นเปลี่ยนชุด
“พอดีเลย” บรีซยิ้มพอใจ ยืนหมุนตัวอยู่หน้ากระจกบานโต แต่เพราะความพอดีที่เกินไปนี่แหละทำให้เธอเริ่มเอะใจอะไรบางอย่าง บรีซมุ่นหน้าคิดแล้วอยู่ๆเธอก็ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ณภัทรสูงกว่าเธอตั้งเยอะ หน้าอกก็ดูจะ...มีมาก(ใหญ่)กว่าเธอ
ไม่มีทางที่ชุดนี้จะเป็นชุดของเจ้าตัวอย่างที่ณภัทรบอก แถมชุดนี้ยังเป็นชุดแบบที่ชายผ้าต้องยาวอยู่แล้วไม่มีทางที่คนตัวเล็กอย่างเธอ(เตี้ย)จะใส่แล้วพอดีได้แบบนี้ เพราะฉนั้นคงมีอยู่กรณีเดียวเท่านั้นก็คือณภัทรนี่แหละเป็นคนเตรียมให้เธอแต่บอกว่าเป็นชุดของตัวเอง
บรีซอมยิ้ม รู้สึกดีใจขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ เธอค่อยๆเดินออกมาจากหลังฉากกั้น ณภัทรที่กำลังง่วนอยู่กับการเลือกเครื่องประดับให้บรีซหันมามอง แต่น่าแปลกที่คนที่น่าจะเป็นคนบอกว่าเหมาะหรือไม่เหมาะนั้น กลับหลบตาทันทีที่เห็นเธอ “โอเคมั้ย”บรีซหมุนตัวแล้วยิ้มกว้างให้ณภัทรด้วยความพอใจ
“อืม...สว..ย...เอ่อ ชั้นหมายถึงก็เหมาะดี”ณภัทรกระแอมแล้วก้มหน้ามองเครื่องประดับที่เธอเลือกไว้ต่อไป บรีซอมยิ้มแล้วนั่งลงที่ปลายเตียงของเจ้าของห้อง “คุณชอบแบบไหน” ณภัทรถามความเห็นขณะยกชุดประดับ มาให้บรีซเลือก
“คุณเลือกสิ ไหนๆก็เลือกชุดให้ชั้นแล้วนิ”บรีซที่กำลังอารมณ์ดีสุดๆ(เพราะได้ชุดถูกใจ)ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ณภัทรหันมามองอีกครั้งแล้วตัดสินใจเลือกชุดประดับที่เป็นไข่มุกสีขาวนวลทั้งชุดให้กับบรีซ “ไข่มุกเหรอ”บรีซชะเง้อหน้าเข้ามามองด้วยอีกคน “ชุดคุณสีน้ำเงินเหมือนน้ำทะเลก็น่าจะเข้ากันกับไข่มุก”ณภัทรออกความเห็น”งั้นชั้นก็เป็นนางเงือกน่ะสิ”บรีซแกล้งพูด
เจ้านายคนสวยอมยิ้มมุมปากแล้วก็หลุดหัวเราะออกมาเช่นเดียวกับบรีซที่คิดไปว่าพูดแบบนั้นออกมาได้อย่างไร ทั้งสองคนสบตากันโดยบังเอิญและบรรยากาศแบบนี้เธอก็เกิดใจสั่นเต้นแรงขึ้นมาดื้อๆ(อีกแล้ว)
“ละ...แล้วรองเท้าล่ะ”บรีซหลบตาแล้วรีบถามถึงเรื่องอื่นแทน เธอไม่อยากจะให้บรรยากาศระหว่างเธอและเจ้านายดูเงียบและรู้สึกแปลกๆแบบนี้ “ทางนี้” ณภัทรเองก็รู้สึกไม่ได้ต่างกันเธอก็รีบหลบตาแล้วเธอนำบรีซไปยังชั้นวางรองเท้าที่อยู่อีกมุมห้อง
“คู่นี้เป็นไง” ณภัทรหยิบกล่องรองเท้าที่วางอยู่ด้านสุดออกมาก แค่บรีซปรายตามองก็รู้แล้วว่ามันเป็นของใหม่เอี่ยมเพิ่งซื้อมาเพราะที่กล่องยังมีป้ายบอกวันที่ซื้อมาอยู่เลย แต่เพื่อรักษาหน้าของคนซื้อเธอจึงแค่อมยิ้มให้ณภัทรขณะที่ณภัทรหยิบมันออกมาจากกล่อง รองเท้าแก้วใสสีน้ำเงินอ่อน แวววาวด้วยคริสตอลที่ประดับเป็นลวดลาย แมชท์กับชุดของเธอราวกับว่าซื้อมาเข้าชุดกัน
“สวยจัง”บรีซเปรยเบาๆ
“เหมาะกับคุณดีออก บรีซ...สายลมที่พัดแผ่วเบา” ณภัทรเปรยเบาๆ
“คุณ” บรีซใจเต้นแรง ไม่เคยคิดว่าเจ้านายของเธอจะเอาใจใส่เธอขนาดนี้ ณภัทรที่ทันหันมามองเห็นสายตาหวานเคลิ้มๆของบรีซเจ้าตัวก็เกิดอาการเขิน
“ ไม่ใช่สิ อย่างคุณนี่น่าจะเหมือน ...ยี่ห้อผงซักฟอกมากกว่า” ญภัทรว่าแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องนอนไปทิ้งให้คนที่กำลังอยู่ในอารมณ์เคลิ้มหวานสะดุ้ง เคืองกับสิ่งที่ณภัทรพูดออกมา
“บ้า” บรีซมุ่นหน้าแล้วหิ้วรองเท้าเดินตามเจ้านายออกไปอีกคน
“ทำไมไม่ใส่ล่ะ” ณภัมรมุ่นหน้าที่เห็นคนนั่งข้างๆใส่รองเท้าแตะแล้วประครองกอดรองเท้าคู่สวยไว้แทน
“เดียวเลอะ” บรีซตอบซื่อ ทำเอาณภัทรหัวเราะขำเสียงดัง “คุณ รองเท้ามันมีไว้ใส่ไม่ได้ไว้กอด ใส่ๆไปเถอะ” ณภัทรส่ายหน้าขำ “ไม่ล่ะ เดียวถึงงานค่อยเปลี่ยน” บรีซยังคงยืนยันคำตอบเดิม แล้วมองรองเท้าคู่สวยอย่างชื่นชม
ทั้งสองคนไปถึงที่งานทันเวลาฉิวเฉียด เป็นอย่างที่ณภัทรบอกจริงๆไม่ใช่ว่างานจะเป็นทางการอะไรแต่มันเข้าขั้นไฮโซ ฟูฟ่ามากกว่า คุณหญิงคุณนายที่เธอเคยเห็นตามหน้าข่าวสังคมไฮโซเดินกันให้ขวัก แต่ละนางราวกับตู้เพชรเคลื่อนที่ บรีซได้แต่มองตามด้วยใบหน้าเอ๋อๆ จนณภัทรต้องสะกิด “คุณ หุบปากหน่อยน้ำลายหยดแล้ว” ณภัทรแกล้งแซว
“ไม่ขนาดนั้นย่ะ” บรีซย่นจมูกใส่เจ้านายคนสวย “จะถึงแล้วคุณเปลี่ยนรองเท้าเลยเดียวต้องลงหน้างาน”ณภัทรว่าขณะหักรถจอดเทียบท่าหน้างานที่มีกองทัพนักข่าวอยู่นับสิบคน เธอเลื่อนกระจกรถลงแล้วส่งบัตรเชิญร่วมงานให้กับเจ้าหน้าที่
“ยิ้มเข้าไว้นะ”ณภัทรกระซิบบอกคนข้างๆ แล้วลงจากรถไป บรีซสะดุ้งเพราะทันทีที่ณภัทรเปิดประตูรถ แสงเฟรชนับสิบจากกล้องถ่ายรูปของนักข่าวก็ระรัวส่องสว่างไปทั่ว
บรีซอึ้งนั่งมองณภัทรอยู่ในรถ ท่วงท่าเฉิดฉายราวกับนางพญาช่างต่างกันราวฟ้ากับเหวกับณภัทรคนที่เธอรู้จัก ณภัทรยิ้มน้อยๆขณะยืนให้นักข่าวถ่ายรูป เธอหันมามองบรีซ ราวกับถามว่าทำไมไม่ยอมลงมา บรีซโบกมือปฎิเสธเป็นพัลวัน
งานแบบนี้มันคนละโลกกับเธอแท้ๆ เจ้าตัวหดตัวหดคอราวกับจะจมหายลงไปกับเบาะรถที่กำลังนั่งอยู่ ณภัทรส่ายหน้า แล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้คนที่แทบจะลงไปกองกับพื้นรถอยู่แล้วให้ออกมาจากรถ บรีซส่ายหน้าเป็นพัลวัน “ฉันจะกลับบ้าน”น้ำเสียงสั่นงอแงเหมือนเด็กกำลังจะร้องไห้
ณภัทรยิ้มขำ แล้วพยักหน้าให้บรีซพร้อมยื่นมือให้อีกคนจับ “เชื่อใจชั้นนะ ไม่มีอะไรหรอก ออกมาเถอะ” ณภัทรบอกเบาๆ น่าแปลกที่รอยยิ้มของเจ้านายตัวแสบกลับทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและกล้าที่จะเอื้อมมือออกไปจับมือของณภัทรแล้วก้าวออกจากรถ แสงเฟรชนับสิบระรัวขึ้นอีกครั้ง โดยมีณภัทรยืนอยู่ข้างๆเธอ มือของทั้งคู่ยังคงเกาะกุมอยู่
ณภัทรบีบมือของบรีซเบาๆ เพราะตอนนี้มือของเจ้าตัวเย็บเฉียบราวกับน้ำแข็ง “ไม่ต้องตื่นเต้น ยิ้มเข้าไว้” ณภัทรเอี้ยวตัวมาบอกบรีซเบาๆ
“อะ..อือ” บรีซพยักหน้าเข้าใจ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอรู้สึกว่าได้รับความสนใจจากคนอื่นมากมายถึงขนาดนี้
“เข้าไปข้างในกันเถอะ” ณภัทรบอกเบาๆแล้วจูงมือของบรีซเดินเข้าไปในงานพร้อมกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น