When Devil falling in love 03


“ห๋า...แกว่าไงนะ” กะแล้ว..ว่าต้องเป็นแบบนี้ แต่จะให้ชั้นทำยังไง ก็ชั้นไม่อยากเจอพี่มาย์ดอีก เป็นไงเป็นกัน
“ไม่ไงล่ะ พี่จะตัดสาย เฟิร์นก็ยอม แต่เฟิร์นไม่ยอมไปเป็นรีดให้พวกพี่จับเต้นแร้งเต้นกาแน่ๆ” ชั้นกลั้นใจบอกพี่รหัสไป
“ทำไม ทำไม ทำไมล่ะเฟิร์น หรือพี่มายด์เคี้ยวแกหนักไป หรือแกงอนไรชั้น”พี่รหัส ยิงคำถามเป็นชุดใส่ชั้น

“ไม่เกี่ยวเลยเจ๊ เฟิร์นแค่ไม่อยากทำอะ อีกอย่างเฟิร์นเป็นวิดวะนะพี่ เรียนก็หนักจะแย่อยู่แล้วพี่ก็รู้ จะให้ไปซ้อมโน้นนี่นั่นอยู่เรื่อยๆมันก็ไม่ไหว เดียวถ้าเกรดเฟิร์นตก เจ๊ไปคุยกะป๊ากะม๊าเฟิร์นมั้ยล่ะ”คงต้องเล่นมุขนี้ละนะ ไม่งั้นดูถ้าเจ๊หญิงคงจะไม่ยอมแน่ๆ

 “เฮ้อ...เอ่อๆ ตามใจแก”พี่รหัสมองค้อนชั้นตาแทบหลุด เอาน่าๆ ยังไงชั้นก็รอดไม่ต้องเจอพี่มายด์อีกแล้ว
เย็นวันนั้นชั้นเดินกลับห้องด้วยอารมณ์สุดแสนจะเบิกบาน จะไม่ให้ดีใจได้ยังไงล่ะ ก็ชั้นหลุดพ้นจากพันธนาการของพี่รหัสแล้วนิ ต่อไปนี้ชั้นก็จะมีเวลาว่างมากขึ้น มีเวลาไปทำอย่างอื่นที่อยากทำซะที  แต่..มันก็ใช่จะเป็นอย่างที่ชั้นคิดซะเมื่อไรล่ะ
“เอ้าเฟิร์น ทำไมวันนี้กลับเร็วอะ” เจ้าน้องชายตัวแสบทักชั้นทันทีที่ชั้นกลับถึงห้อง “แล้วทำไมย่ะ ชั้นจะกลับเร็วบ้างอะไรบ้างไม่ได้หรือไง”ชั้นมองค้อนมันแล้วถอดเข็ดขัดนักศึกษาออกดึงชายเสื้ออกจากกระโปรงแล้วก็เตรียมจะถอดกระโปรงออก แต่เมื่อชั้นเดินเข้าไปด้านใน

 “ฮึ้ย..” ชั้นสะดุ้ง
 “แน่ะ ดีใจล่ะสิ” เจ้าตัวแสบทัก
“เซอร์ไพร์.... เนี่ยฟินด์เจอพี่มายด์ที่หน้าม.ไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่าเราสองคนจะได้เรียนที่เดียวกับพี่มายด์”

“ไอ้บ้าฟินด์” ชั้นนึกในใจพลางมองค้อนมัน ก็คนที่นั่งอยู่กลางห้องรับแขก กำลังส่งยิ้มหวานๆมาให้ชั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นพี่มายด์ ที่ชั้นพยายามจะหลบหน้า(หนี)มาตลอด2-3วันนั่นเอง
“งั้นก็คุยกันไปนะ เดียวฟินด์ไปเตะบอลแหละ”ไอ้ตัวดีพูดจบก็แจ้นออกจากห้องไป ปล่อยให้ชั้นยืนใจสั่นอยู่กับที่ ทำได้แค่ส่งยิ้มแหยๆให้พี่มายด์แล้วรีบวิ่นแจ้นกลับเข้าห้องตัวเองไปทันทีโดยไม่ได้ทักพี่มายด์เลยซักคำ

ชั้นใช้เวลาทำใจอยู่ในห้องพักใหญ่
 “อิ๋งๆ” ก็ได้แต่ลูบหัวไอ้โต๋ว ลูกหมาที่ไอ้ฟินด์เพิ่งจะไปได้มาจากสาวอักษรที่มันไปจีบเค้าไว้ แปลกชะมัดเดียวนี้เวลาจีบกัน ถึงขนาดซื้อลูกหมาให้เลี้ยงกันแล้วเหรอ แต่สาวคนนั้นคงจะไม่รู้เลยมั้งว่าไอ้ฟินด์ไม่ใช่คนเอ็นดูสัตว์หน้าขน ตัวสั้นๆขนเต็มตัวแบบนี้ ภาระทั้งหมดจึงตกเป็นของชั้น
ชั้นนั่งลูบหัวเจ้าโต๋วพลางคิดอะไรไปเรื่อยเปี่อย จนเสียงเคาะประตูดังขึ้นนั่นแหละชั้นถึงจะได้สติ

“คะ..”ชั้นขาน
“พี่กลับก่อนนะ”เสียงพี่มายด์ฟังดูเศร้าๆพิกล” โอ๊ยนี่ชั้นทำถูกหรือผิดเนี่ยที่หนีเข้ามาให้ห้องปล่อยให้พี่มายด์นั่งรออยู่เกือบ....2 ชม ชั้นเหลือบมองนาฬิกา
 “อะ..เอ่อ...”เอาไงดีนะล่ะ ชั้นยืนใจสั่นอยู่หน้าประตูแล้วก็คงจะหนักมือไปหน่อยเลยเผลอขยำหัวเจ้าโต๋วแรงไปจนมันร้องลั่น “เอ๋งๆๆ” เจ้าโต๋วดิ้นหลุดจากอ้อมแขนชั้นไปตะกุยประตูห้องอย่างบ้าคลั่ง “ขอโทษโต๋วชั้นขอโทษ”ชั้นรีบเข้าไปปลอบเจ้าตัวเล็ก

“รอเดี๋ยวค่ะ” หนียังไงก็คงหนีไม่พ้นล่ะมั้ง ชั้นนึกพลางเปิดประตูห้อง เจ้าโต๋วรีบตะเกียดตะกายวิ่งไปหลบอยู่หลังพี่มายด์ทันที อะไรกันฟร่ะ ขนาดชั้นเป็นคนเลี้ยงมันมา กว่ามันจะยอมให้ชั้นโดนตัวก็เป็นอาทิตย์ๆ แต่กับพี่มายด์ที่เพิ่งหน้ากัน มันกลับเข้าไปอ๋อเซาะ..หมาไม่รักดีชั้นนึกด่าในใจ

“อ่า....”พี่มายด์ยิ้มแล้วอุ้มไอ้โต๋วขึ้นมาอุ้มลูบหัวมัน ดูหน้ามันซิทำหน้าเคลิ้มซะน่าหมั่นไส้ “น่ารักจังค่ะ ชื่ออะไรเอ๋ย”พี่มายด์ถามมัน มันคงจะตอบหรอกนะ “โต๋ว”ชั้นตอบสั้นๆแล้วรีบไปรับมันคืนจากพี่มายด์  “พันธุ์อะไรคะ น้องเฟิร์นนี่ชอบน้องหมามาแต่ไหนแต่ไรเลยจริงๆนะ” พี่มายด์ตอบ

“โกเด้น” ชั้นตอบห้วนๆอีก  “อือ...น้องเฟิร์นคงจะอารมณ์ไม่ดี งั้นพี่มายด์ไม่รบกวนแล้วค่ะ ขอตัวกลับก่อนนะ”พี่มายด์เจื่อนยิ้มหน้าเศร้าๆ ทำให้ชั้นรู้สึกผิดขึ้นมา ถึงแม้ว่าชั้นยังคงโกธรพี่มายด์อยู่ แต่เวลามันก็ผ่านมานานแล้ว อีกอย่างชั้นก็ไม่ได้เป็นอะไรกับพี่มายด์แล้วถ้าจะเหลือแค่ความเป็นพี่เป็นน้องกัน มันจะยากขนาดไหนเชียว

 “อะ..เอ่อ...เฟิร์น...เฟิร์นแค่ หงุดหงิดเพราะไอ้โต๋วมันดื้อน่ะค่ะ ไม่เกี่ยวกับพี่มาย์ดหรอก “ โทษทีนะไอ้โต๋วที่ต้องโทษแก ชั้นมองหน้ามันและเหมือนมันจะรู้ได้ว่าชั้นโยนความผิดให้มัน  มันงับนิ้วชั้นแรงเอาเรื่องจนชั้นร้องโอย “ไอ้โต๋ว”ชั้นตะโกนลั่น และเจ้านี่มันก็แสนรู้รีบวิ่งหนีไปซุกอยู่บนตักพี่มาย์ด คิดเหรอว่าพี่มาย์ดจะคุ้มครองแกได้ ชั้นคาดโทษมัน

“งิ๋งๆ”มันร้องตัวสั่น อ้อนพี่มาย์ดไม่เลิก “โอ๋ๆ เป็นอะไรไปคะ น้องโต๋ว” พี่มาย์ดปลอบมันแล้วอุ้มมันเดินไปเดินมา “ไอ้ตัวแสบ”ชั้นนึกพลางมองค้อนมัน  “พี่มาย์ดอย่าไปสนใจมันเลยค่ะ ไอ้แสบนี่มันชอบอ้อนคนสวยๆ” ชั้นยืมมองมันอย่างหมั่นไส้ “พี่มายด์ยิ้มน้อยๆ
 “เอ่อ...พี่มาย์ดทานข้าวเย็นหรือยังคะ” ฉันเสี่ยงลองถาม
“ยังเลยค่ะ”
“งั้น...จะอยู่ทานพร้อมเฟิร์นมั้ย” โอ๊ย ชั้นชวนทำไมเนี่ย ชั้นนึกโมโหตัวเอง
“ได้เหรอ” พี่มายด์เหมือนจะอึ้งกับคำชวนของชั้นอยู่ไม่น้อย “ก็..ไอ้ฟินด์ไปเตะบอลแบบนี้ คงไปต่อกับเพื่อน เฟิร์คงทานคนเดียวไม่หมด” หาคำตอบที่ดีกว่านี้ไม่ได้หรอไงเนี่ยชั้น


“งืม..งั้นก็โอเคค่ะ ว่าแต่เราจะทานอะไรกันดี”พี่มายด์ถามชั้น นั่นสิ ชั้นก็ยังนึกไม่ออก แต่ไอ้ฟินด์เพิ่งจะไปซื้อของสดมาเก็บไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ชั้นเลยรีบไปเปิดดูในตู้เย็นว่าจะทำอะไรกินดี

“ทำอะไรกินดีเน้อ”ชั้นก้มมองเข้าไปในตู้เย็นพลางนึก
“ไหนค่ะมีอะไรบ้าง” จะทำอะไรเนี่ยชั้นนึกเมื่อพี่มายด์ชะโงกตัวมาดูภายในตู้เย็นบ้างทั้งๆที่ตู้เย็นก็ไม่ได้ใหญ่อะไร หน้าของพี่มายด์เกือบจะชนกับหน้าของชั้นอยู่แล้ว ชั้นจึงรีบถอยตัวออก พี่มายด์หันมามองยิ้มๆ จงใจจะยั่วชั้นหรือไง ไม่มีทางร๊อก ยากสสส์ ชั้นนึกแล้วถอยออกมายืนห่างๆ

“ของสดเต็มเลย เฟิร์นอยากทานอะไรคะ” พี่มายด์ถามชั้น “เอ่อ...อะไรก็ได้ค่ะ เฟิร์นว่าพี่มายด์ไปนั่งรอดีกว่าเฟิร์ททำแป๊บเดียวก็เสร็จ” ชั้นรีบบอก

“ได้ไงล่ะคะ เฟิร์นอุส่าห์ชวนพี่ทานข้าวทั้งที จะให้พี่รอทานอย่างเดียวได้ยังไงกัน” โอ๊ยๆ นี่ก็ไม่เข้าใจความหมายที่ชั้นต้องการจะสื่อเลยมั้ง

 “มะ..ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่มาย์ดช่วยดูไอ้โต๋วให้เฟิร์นตอนเฟิร์นทำกับข้าวก็พอ”ชั้นรีบบอก ก่อนจะแทรกตัวหยิบโน้นนี่อะไรก็ไม่รู้ออกมาหมดชั้นยังนึกไม่ออกหรอกนะว่าจะทำอะไรทาน แต่ก็พยายามทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ พี่มาย์ดจะได้เลิกจ้องเลิกมองชั้นซักที

 “เยอะแยะขนาดนั้นจะทำเลี้ยงคนทั้งคอนโดเลยหรือไงคะ” พี่มาย์ดหัวเราะขำ ก็ใครกันล่ะที่ทำให้ชั้นตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกขนาดนี้ แค่พี่แค่น้อง ชั้นพยายามจะนึก แต่มันช่างยากเย็นเหลือเกิน “พี่มาย์ดไปนั่งรอเถอะค่ะ” ชั้นตัดบท รีบหยิบถุงผักไปที่ซิงค์ล้างจาน “ให้พี่ช่วยดีกว่าค่ะ จะได้เสร็จไวขึ้นเนอะ” พี่มาย์ดขันอาสา วางไอ้โต๋วลงกับพื้นแล้วเธอมาหาชั้นที่ลิงค์ล้างจาน

 “อะ..เอ่อ..ค่ะ” ชั้นก็ไม่รู้จะปฎิเสธอย่างไรแล้วก็เจ้าตัวดูจะขวนขวายอยากช่วยเหลือเกินนี่นะ “งั้น เฟิร์นไปเจียวไข่” ชั้นรีบบอกเพราะพี่มาย์ดมายืนใกล้ชั้นเกินไปแล้ว

“โอเคค่ะ” ไม่รู้ว่าจงใจจะแกล้งชั้นหรือยังไงพี่มาย์ดเหมือนพยายามจะตามชั้นไปทุกที มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกมั้ง เพราะตั้งแต่วันนั้น ไม่ว่าชั้นจะไปไหน ดูเหมือนชั้นจะแอบเห็นพี่มาย์ดอยู่เรื่อย โรงอาหาร หอสมุด หรือแม้แต่กระทั่งหน้าคณะ ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นไปได้ พี่มาย์ดเรียนอยู่อักษรจะมาทำอะไรแถววิศวะ คณะก็อยู่ห่างกันตั้งเยอะ มันมีไม่กี่ทางให้ชั้นคิดหรอก
 “บ๊อกๆ”ชั้นสะดุ้งหลุดจากผวังค์เพราะไอ้โต๋วเห่า

“แว๊ก..”ชั้นร้องลั่น เพราะไข่เจียวในกะทะตอนนี้มันได้กลายร่างเป็นไข่ช็อกโกแลตไปแล้ว
 “ตายแล้ว น้องเฟิร์นคะ ระวังค่ะ”พี่มาย์ดรีบเข้ามาแย่งกระทะในมือชั้นโยนใส่ไปที่ซิงค์ล้างจาน ควันขโมงไปทั่วห้อง นี่ชั้นเป็นอะไรไปเนี่ย

 “กลายเป็นไข่ช็อกโกแลตเลย”ชั้นเปรยพลางมองไข่เจียวดำปี๋ที่ยังคาอยู่ในกระทะ พี่มาย์ดชะโงกหน้ามามองด้วย “แล้วจะหวานเหมือนช็อกโกแลตมั้ยเนี่ย”พี่มาย์ดยิ้มขำแล้วหัวเราะ
 “ถ้าหวานเหมือนช็อกโกแลตจริง เดียวเฟิร์นจะซัดให้เรียบเลย”ชั้นว่าแล้วพลางหัวเราะตามพี่มาย์ดไปด้วยอีกคน
 แล้วก็นั่นอีกแหละนะ ทุกอย่างมันดูจะเป็นใจเกินไปมั้ย ตาของฉันดันสบเข้าพอดีกับพี่มาย์ดเสียนี่ แล้วชั้นก็ราวกับถูกสะกดริมฝีปากบางๆตรงหน้ามันน่า..ชั้นนึก

 พี่มาย์ดเองก็คงจะคิดไม่ต่างกับชั้นละมั้ง พี่มาย์ดขยับตัวเข้าใกล้ หน้าของเธออยู่ห่างหน้าชั้นเพียงไม่กี่เซนติเมตร  พี่มาย์ดจะทำอะไร แล้วชั้นทำอะไรอยู่ ทำไมไม่ฝืนตัว ชั้นกลับค่อยๆยื่นหน้าเข้าใกล้หน้าพี่มาย์ดมากขึ้น อีกนิด อีกนิดเดียว ริมฝีปากของเราทั้งคู่ก็จะแตะกันอยู่แล้ว

 “อะ..โอ๊ย” ชั้นร้องลั่นทำให้เราทั้งสองคนผละออกจากกัน “เป็นอะไรไปคะ”พี่มาย์ดรีบถามเมื่อเห็นชั้นทำหน้าเหยเก “กระทะน่ะค่ะ มือเฟิร์นเผลอไปโดน”ชั้นรีบอธิบายพร้อมยกมือของตัวเองขึ้นมาเป่า “มานี่ค่ะ”พี่มาย์ดรีบคว้ามือของชั้นไปที่ซิงค์น้ำแล้วเปิดน้ำรดบริเวณรอยพอง

 “ดีขึ้นมั้ยคะ”เธอรีบถามถึงแม้รอยพองที่โดนกระทะจะไม่ได้ใหญ่อะไรแต่ก็แสบอยู่ไม่น้อย “ค่ะดีขึ้นเยอะเลย”ชั้นตอบ พี่มาย์ดอมยิ้มแล้วขยับเข้าใกล้ชั้น ราวกับจะสานต่อเรื่องเมื่อกี้ “อะ..เอ่อ...เดียวเฟิร์นไปหากล่องปฐมพยาบาลก่อนนะ”ชั้นรีบบอกแล้วเลี่ยงเดินหนีออกมา

“อีกนิดเดียวเองเน๊อะโต๋ว” นั่นคือสิ่งที่ชั้นไม่ได้ยินระหว่างที่เดินออกมาหากล่องปฐมพยาบาล



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น